Episode 20 ( Day x Im )
WE ARE FRIEND
Day x Im
Episode 20
ปล. ก่อนอ่านบทนี้ อ่านใครเป็นแฟนใคร ในแอพจอยลดาตอนที่ 20 ก่อนนะคะ
“มองไร”
เสียงทุ้มเอ่ยถามแบบขำๆ เมื่อเขาเห็นว่าคนที่ได้ชื่อ
‘เพื่อนสนิท’ ยืนนิ่งอยู่ที่หน้าประตู หลังจากที่เจ้าตัวปลีกไปขลุกอยู่ในครัวคนเดียวอยู่นานสองนาน
เขาก็พอจะรู้แล้วแหละว่ามันถูกอาการที่เรียกว่า
‘งอน’ เข้ามาสิง แต่ตามประสาคนที่ปากไม่ตรงกับใจ
ยังไงก็คงจะไม่ยอมรับ
ใช่ อิมไม่ยอมรับหรอก แต่เขาเห็น เพราะตอนที่มันเดินออกไปแบบเงียบๆเป็นจังหวะเดียวที่เขาคุยกับโซ่พอดี
ก็นะ
ยอมรับว่าเป็นห่วง เพราะเรื่องที่เพิ่งจะเกิดขึ้นค่อนข้างที่จะใหญ่พอสมควร
ขนาดตัวเขาเองยังไม่รู้เลยว่าควรจะรับมือยังไง
ถึงจะพูดเล่นอยู่บ่อยๆว่าเพื่อนกันก็เอากันได้ก็เถอะ
ก็เอากันได้จริงๆ
แต่ถ้ารู้สึกไปแล้ว.. มันก็ยากที่จะรักษาความสัมพันธ์เอาไว้ให้ได้เหมือนเดิม
ยกตัวอย่างเช่นเขากับคนตรงหน้าก็ได้
เดย์จ้องเข้าไปในดวงตาเรียว อีกฝ่ายมองเขาตอบท่ามกลางความเงียบที่ปกคลุมไปทั่วทั้งห้อง
เขาไม่รู้จะพูดอะไร และเดย์ก็มั่นใจว่าอีกฝ่ายเองก็หัวโล่งๆเช่นกัน
บรรยากาศในตอนนี้แสนจะน่าอึดอัด เขาใช้เวลาทั้งหมดพิจารณาใบหน้าของอีกฝ่ายไปเรื่อย
ดวงตาเรียวเล็ก สันจมูกโด่งรั้นที่ดูจะดื้อๆหน่อย รับเข้ากับริมฝีปากบางเฉียบได้เป็นอย่างดี
อาจเพราะปกติไม่ได้มองนานขนาดนี้ เขาเลยไม่เคยรู้ว่าอิมมันก็หน้าตาดีใช่ย่อย
ไม่สิ.. หรือเพราะปกติมันเอาแต่ทำหน้าบึ้งใส่เขาก็ไม่รู้
ที่ผ่านมาก็โดนด่าโดนปากหมาใส่ตลอด การกระทำทั้งหมดสวนทางกับคำว่าชอบโดนสิ้นเชิง แล้วแบบนี้จะให้เชื่อได้ยังไงว่ามันชอบเขา
ยังไงก็ไม่อยากเชื่อหรอก
แต่ก็
ถ้าเจ้าตัวเป็นฝ่ายบอกมาแบบนั้น เขาก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องปฏิเสธ
น้อยคนนักที่จะได้รักแรกกับรักสุดท้ายเป็นคนเดียวกัน
เขาบอกกับเจ้าขุนแบบนั้น และสุดท้ายคำคำนี้ก็ต้องหวนกลับมาเตือนตัวเองให้ขึ้นใจ
เขายังตัดใจจากโซ่ไม่ได้หรอก แต่เดย์ก็ไม่ใช่คนที่จะพาตัวเองจมปลักอยู่กับสิ่งเดิม
ในเมื่อดูยังไงก็ไม่มีหวัง อีกทั้งเขายังไม่อยากมีปัญหากับเพื่อนสนิทอย่างไอ้ลม
เขาก็ยอมถอย
“เอ้า ไหนบอกจะกอด”
“อะไร”
“ทำนิ่ง งั้นกูไม่ให้กอดนะ” เดย์หัวเราะเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายทำหน้าบึ้งอีกแล้ว ริมฝีปากที่เคยเชิ่ดเบะลงในทันที
หากแต่สองข้างแก้มกลับขึ้นสีแดงเรื่อในตอนที่เขาอ้าแขนออก
อ้อ
คนอย่างอิมก็เขินเป็น
เขาเพิ่งจะเคยเห็น..
ใช้เวลาสักครู่เลยทีเดียวกว่าที่ร่างเล็กจะเข้ามาสวมกอดเขา
จะว่าไปแล้ว รอบนี้มันคงจะเป็นกอดแรกที่เริ่มจากความเต็มใจ ความอยาก หรืออะไรก็แล้วแต่
เพราะที่ผ่านมาพวกเขาไม่เคยกอดกันเลยสักที
ความอุ่นจากอ้อมกอดของร่างเล็กทำให้เดย์ใจเต้นได้แปลกๆ ยิ่งในตอนที่อ้อมแขนนั้นกระชับให้แน่นกว่าเดิม
จู่ๆเขาก็รู้สึกอุ่นไปทั้งกาย
ความรู้สึกถูกกอดมันเป็นแบบนี้นี่เอง
เพราะที่ผ่านมาเขากอดแต่โซ่เพียงฝ่ายเดียวล่ะมั้ง รายนั้นน่ะไม่เคยกอดเขาตอบเลยด้วยซ้ำไป
เดย์วาดแขนกอดคนตรงหน้ากลับหลังจากที่คิดได้ แขนแกร่งโอบรัดแถวๆตรงเอวแล้วกดจมูกลงไปหอมที่ตรงกลุ่มผมนิ่ม
มือข้างที่ว่างกดศีรษะกลมลงจมอก ปล่อยให้เวลาผ่านไปสักพัก ทั้งห้องเงียบจนทั้งคู่ได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองดังกึกก้อง
ก่อนที่เสียงอู้อี้จะดังออกมาจากหน้าอกแกร่ง
“เชี่ย”
“ไรอีกล่ะ” ร่างสูงถามต่อ
“...เปล่า”
“เขินสินะมึงอะ”
“มั่ว” อิมเงยหน้าขึ้นมอง
แขนเรียวปล่อยจากเอวหนา หากแต่ตัวเขากลับโดนรวบกอดเอาไว้เหมือนเก่า
“เขินก็ยอมรับ”
“ไม่..”
“บอกให้ปากตรงกับใจบ้าง เดี๋ยวกูจูบเลย”
“...” อิมเม้มริมฝีปาก ใครจะรู้ว่าภายในอกมันแทบจะระเบิด
แต่เพราะนิสัยส่วนตัวที่มีอะไรไม่ยอมพูด ก็ทำให้ยังตีหน้านิ่งได้อยู่
ถึงแม้ว่าแก้มทั้งสองข้างมันจะแดงไปจนถึงหูแล้วก็ตาม
“จูบดิ” ก่อนที่เขาจะรวบรวมความกล้าทั้งหมดเอ่ยออกไปแบบนั้น
อิมสาบานได้ว่าโคตรอยากจะกัดลิ้นตาย แต่ก็ไม่ทันแล้ว
“หึ” ทันทีที่เดย์หัวเราะแบบนั้นเขาก็ไม่มีโอกาสบอกว่าล้อเล่น
ริมฝีปากหนากดลงแนบเข้ากับกลีบปากบางในทันที มือเล็กยกขึ้นกำเสื้อตรงหน้าอกพร้อมกับขยำอย่างแรงด้วยความตกใจ
เสียงดูดเม้มที่ดังก้องอยู่ในหัวทำเอาใจเต้นไม่ยอมหยุด กว่าจะรู้ตัวว่าต้องจูบตอบกลับ
ลิ้นร้อนๆก็แทรกเข้ามาข้างในริมฝีปากเสียแล้ว
ลิ้นหนากว้านต้อนไปทั่ว ราวกับจะเอาความซึนออกไปเสียบ้างริมฝีปากนี้จะได้หายแข็งเสียที
เดย์ประคองใบหน้าเล็กเอาไว้แล้วทั้งจูบทั้งดุน ใบหน้าคมเข้มหันไปทางฝั่งตรงกันข้ามเพื่อที่จะจูบให้ถนัดกว่าเดิม
“อือ..” รสจูบที่แสนหวานในตอนแรกเปลี่ยนเป็นความร้อน
อาจเพราะเขานึกหมั่นเขี้ยวไอ้เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อคนนี้เลยแกล้งดูดแรงๆไปหลายที ริมฝีปากบางบวมเจ่อไปหมด
เวลาผ่านไปนานจนเขาเริ่มหอบหายใจไม่เป็นจังหวะ และแน่นอนว่าเขาทั้งคู่รู้กันดีว่าอาการแบบนี้คืออะไร
“อะ.. มึง” กายบางลอยหวือขึ้นจากพื้น ก่อนที่จะต้องหวิวในท้องเมื่อถูกโยนลงเตียตามแรงโน้มถ่วงของโลก
แขนเรียวยกขึ้นสวมกอดร่างสูงในทันทีที่ตามลงมาคร่อมทับโดยที่ไม่ปล่อยให้เสียเวลา
พวกเขาจูบกันอีกครั้ง จูบทั้งหนักและเบาสลับกันไป ใช่ว่ารอบนี้มันคือจูบแรกเสียหน่อย
แต่เท่าที่อิมจำได้..
เขาไม่เคยจูบกับเดย์นานขนาดนี้มาก่อนเลย
“เดย์..”
“อย่าให้ใครทำรอยบนตัวมึงอีก นอกจากกู”
“อื้อ..”
ความแสบไล่ตั้งแต่ช่วงคอลงไปจนถึงหน้าอก ริมฝีปากหนาลากผ่านตรงไหนรอยแดงก็ปรากฎเป็นทางยาวไปตามนั้น
มือใหญ่ออกแรงดึงทีเดียวเสื้อตัวที่เขาใส่อยู่ก็กระเด็นไปอยู่ข้างเตียง
อิมหลับตาลงแน่น เขาขยุ้มมือลงบนกลุ่มผมหนาในตอนที่เดย์กดจูบลงบนหน้าท้อง
ร่างเล็กครางออกมาเบาๆในตอนที่ขนอ่อนลุกชัน ก่อนที่คนตัวสูงจะเหลือบตาขึ้นมามองในระหว่างที่ปลดเข็มขัดของเขาออก
สายตาที่เขาโคตรชอบ
ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่ตกหลุมรัก รู้แค่ว่าเขาเสพติดสายตานี้
ชอบถูกมองแบบนี้ ก็เลยเป็นเหตุที่ทำให้ไม่เคยปฏิเสธสักทีเวลาไอ้หมอนี่จะมานอนด้วย
“อ๊ะ..” ความเย็นของเจลทำเอาสติกลับมาสู่ปัจจุบัน
อิมกลืนน้ำลายลงคอเมื่อนิ้วทั้งสองสอดเข้ามายังช่องทางหลังแบบไม่บอกไม่กล่าว เขาขมวดคิ้วมุ่นเมื่อนิ้วเรียวนั้นควงไปควงมาเพื่อขยายมันก่อน
“ถุงหมดแล้วอ่อ”
“อื้อ.. ก็มึงใช่-อะ อันสุดท้าย อื้อ! ไปวันนั้นไง”
“อยากเอา” ตาคมช้อนขึ้นมาสบอีกหน
ในขณะที่ข้อมือแกร่งก็ยังคงทำหน้าที่ของตัวเอง อิมสะดุ้งเฮือกเมื่ออีกฝ่ายคลำไม่นานก็กระตุกโดนจุดกระสัน
เขากำผ้าปูที่นอนแน่น สายตาจ้องกลับอย่างไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่นัก
“ก็- เอาดิ”
“...”
“...”
“ให้อ่อ?” ริมฝีปากแกร่งกระตุกยิ้มขำ
ก่อนจะแกล้งดันนิ้วเข้ามาจนสุดข้อ แผ่นหลังบางถึงขั้นแอ่นขึ้นเนื่องจากไม่ทันตั้งตัว
“อื้อออ.. มันลึก”
“ของกูลึกกว่านี้อีก”
“เดย์.. อ๊ะ!”
“สดจริงนะ ให้คิดอีกที”
มือบางคว้าเอาที่คอเสื้อของอีกฝ่ายก่อนจะออกแรงดึง เดย์โน้มตัวเข้าหาในขณะที่ร่างเล็กก็ร่นตัวเข้าใกล้
ริมฝีปากทั้งคู่จรดเข้าหากันอีกรอบ จูบนี้ถือเป็นคำตอบให้ร่างสูงได้รู้ว่าเขามั่นใจมากแค่ไหนกัน
มือทั้งสองถอดเสื้อของกายสูงออกแล้วโยนทิ้งไปพร้อมกับเดย์ที่ปลดกางเกงของเขาเองด้วยความรีบร้อน
ร่างกายของทั้งคู่เปลือยเปล่าอยู่บนเตียงกว้าง ส่วนอ่อนไหวเชื่อมกันเป็นหนึ่งเดียวท่ามกลางความตื่นเต้นของคนทั้งคู่
คราวนี้ไม่มีอะไรมาขวางกั้น มีเพียงเนื้อที่แนบเข้ากับเนื้อ ความอบอุ่นที่สัมผัสต่างออกไปจากเดิม
มันบอกความรู้สึกไม่ถูก แต่ถ้าหากจะบอกว่าไม่รู้สึกดีก็คงจะเป็นการโกหก
“อ..อื้อ -มึง”
แบบนี้ถือว่ามันพัฒนาไปอีกขั้นรึเปล่านะ
“เชี่ย..ดีสัสๆ”
ร่างสูงสบถกับตัวเองก่อนจะยกยิ้ม เขารั้งเอวบางนั้นเอาไว้แล้วดันเนื้อร้อนเข้าไปจนสุด
กดกระแทกเข้าออกเป็นจังหวะ เสียงกระทบกันเบาๆทำเอาความร้อนแล่นไปทั่วหน้าคนตัวเล็ก
ที่ผ่านมาพวกเขามีอะไรกันแค่แก้อยากเฉยๆ แต่ในตอนนี้มันลึกซึ้งกว่าเดิมมาก
แล้วมันก็รู้สึกดีเสียจนหัวใจแทบจะระเบิดตูมตาม
“เดย์..”
“ครับ”
“ต่อจากนี้..อะ-
กูให้มึงคนเดียว อื้อ..เลย”
“พูดแล้วนะมึงอะ..อ่า”
กายหนาเขยื้อนเป็นจังหวะต่อเนื่อง แขนแกร่งค้ำตัวเองเอาไว้กับเตียงนิ่มพร้อมทั้งจ้องเข้าไปในตาคู่สวย
ในขณะที่ร่างเล็กเองก็เกี่ยวขาเข้ากับเอวสอบ
“อื้อ.. พูดจริง อ๊ะ
จริงๆ”
“อืม..กูก็”
“...”
“จะมีมึงคนเดียว จะดูกับมึงแค่คนเดียวให้แน่ใจ”
“อื้อ..มึง-“
เสียงสุดท้ายหายไปเพราะจูบที่แสนหนักหน่วง การขยับกายที่สัมพันธ์กัน
และรอยเล็บที่ฝังลงบนแผ่นหลัง ทุกอย่างรวมกันจนตอกย้ำให้ร่างเล็กมั่นใจ คำว่า
‘รัก’ ลอยเด่นเพียงคำเดียว ชัดเจนท่ามกลางเหตุการณ์วุ่นวาย
อิม รัก เดย์
แล้วก็ได้แต่หวังว่าสักวัน
เดย์ จะรัก อิม... บ้างในสักวัน
#ใครเป็นแฟนใคร
กำไม้พายแน่นๆ
กำลังฟิน เจอประโยค กำไม้พายแน่นๆ
ตอบลบแทบหุบยิ้ม 55555
ขอบคุณสำหรับฟิคนะคะ ไรท์สู้ๆน๊าาา
อื้อหืออ ฟินนาเล่ -..,- อ่านไปกุมใจไป โอ้ยย ยิ้มอ่ะ เขิงแทน
ตอบลบโอ้ยกริ๊ดๆๆ ตอนนี้อ่านแล้วฟินใจบางมัก โอ้ยๆๆๆ เดย์อิมนี่ต้องได้เป็นแฟนกันนะ
ตอบลบ