Episode 16 ( Lom x So )
WE ARE FRIEND
Lom x So
Episode 16
ปล. ก่อนอ่านตอนนี้ แนะนำให้อ่าน #ใครเป็นแฟนใคร ในจอยลดา ตั้งแต่ตอนที่ 15 - 18 ให้จบก่อนนะคะ
“เป็นแฟนกันนะครับ”
แขนแกร่งสวมกอดเข้าที่เอวบางพร้อมคำกระซิบหวานๆอยู่ตรงข้างหู
ทำเอาคนฟังอดที่จะอมยิ้มเขินไม่ได้ ทั้งๆที่ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าจะตื่นเต้นอะไร
เนื่องจากพวกเขาก็อยู่ด้วยกันแบบใช้ชีวิตเกินคำว่าแฟนไปเยอะแล้ว ใครจะไปรู้ว่าโมเมนท์โดนขอเป็นแฟนจะทำให้เขินได้หน้าตาเฉย
มือเล็กปิดตู้เย็นก่อนจะหันไปหาอีกฝ่ายแล้วเงยหน้ามองแบบงงๆ
“เดี๋ยวหาว่ากูไม่หวาน
มาขอต่อหน้าแล้วไง”
“อ๋อ นึกว่าจะเป็นแฟนกันแค่ในแชท”
“เดี๋ยวมึงจะโดน”
โซ่หัวเราะชอบอกชอบใจ มือเล็กจูงให้อีกฝ่ายไปนั่งที่โซฟาแล้วค่อยๆนำเจลเย็นประคบลงบนรอยช้ำตรงหน้าอย่างแผ่วเบา
“ไอ้รอยช้ำพวกเนี่ย..
รีบๆหายเลย”
“กูก็ยังหล่ออยู่ดีปะ”
“แต่ไม่ชอบให้เป็นแผล
ไม่ชอบให้เจ็บตัว เข้าใจมะ” นิ้วเรียวจิ้มลงบนหน้าผากแล้วผลักเบาๆเพื่อลงโทษ
“เดี๋ยวมันก็หาย พี่ปุ๊กกี้สั่งยามาให้แล้ว
พรุ่งนี้เรียกเข้าไปคลินิกด้วย”
“ดีแล้ว
พอเป็นแบบนี้งานก็ไม่เดินเลยเนี่ย”
“ได้อยู่กับแฟนก็โอเค”
“เป็นคนติดแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่”
โซ่ย่นคิ้วอย่างไม่อยากจะเชื่อ เขาไม่รู้ว่าลมขี้หยอดขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
แต่มันก็ทำให้ภายในใจเต้นตึกตักได้ทุกครั้งเมื่อได้ยิน
“ตั้งแต่คบกับมึงนั่นแหละ”
“อ้อหรอ”
“แต่เมื่อก่อนผมก็ติดคุณครับ”
“นั่นแบบเพื่อนปะ”
“ไม่รู้ คิดเกินเพื่อนไปตอนไหน”
คนฟังหัวเราะออกมาอีกครั้งก่อนจะส่ายหน้า
เขาค่อยๆประคบเย็นให้อีกฝ่ายไปเรื่อยๆ
เพราะพี่ปุ๊กกี้กำชับเอาไว้ว่าห้ามลืมเด็ดขาด
ด้วยหน้าที่การงานของลมที่ใบหน้าเป็นส่วนสำคัญทำให้ถูกติเตือนอยู่นาน
แถมยังสั่งห้ามว่าอย่าเพิ่งเปิดเผยเรื่องที่คบกันอีกต่างหาก
แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาหรอก
พวกเขาก็อยู่ด้วยกันแบบนี้จนใครต่อใครต่างก็ชินตาไปแล้ว
ครืดดดด
ก่อนที่เสียงแจ้งเตือนของโทรศัพท์จะดังขึ้นทำลายความเงียบ
เรียกให้ร่างเล็กหันไปเลิกคิ้วมองด้วยความแปลกใจ
“ใครทักมาอีกล่ะ”
แขนของเขาถูกดึงเอาไว้ด้วยฝีมือของคนด้านหลัง
นายวายุภัคแสดงออกถึงความไม่พอใจอย่างชัดเจนจนเขาอดที่จะหมั่นเขี้ยวไม่ได้
“ไม่รู้ ขอไปดูก่อน”
“ถ้าเป็นไอ้เดย์กูไม่ให้ตอบนะ”
“ครับแฟน ไม่ตอบครับ”
“เร็ว”
โซ่พยักหน้ารับก่อนจะเดินไปหยิบโทรศัพท์มาเปิดดู
คิ้วทั้งสองข้างเลิกขึ้นเล็กน้อยเมื่อพบว่าเป็นแจงเพื่อนสนิทไม่ใช่ใครอื่น
“แจงทักมาอะ คุยแป๊บ”
“ทักมาทำไม?”
“เหมือนมันทะเลาะกับเมฆ”
“อ้าว ทะเลาะอะไร?”
“ไม่รู้ เดี๋ยวคุยก่อนนะ”
เขาเดินไปนั่งอยู่บนโซฟาก่อนจะอิงกับหน้าอกแกร่งในขณะที่พิมพ์ตอบคำถาม
โซ่เอียงจอโทรศัพท์ให้อีกฝ่ายดูอย่างไม่ปิดบัง ส่วนลมก็เลือกที่จะขยี้หัวนั้นเบาๆ
“ไอ้เมฆเป็นไรของมันวะ”
“ไม่รู้มัน”
“ปลอบแจงไปก่อนละกัน กูเข้าไปเล่นเกมนะ”
“อื้อ”
“จะเล่นตาเดียว จบแล้วเข้ามาหาเลย”
จมูกโด่งหอมเข้าที่ตรงขมับในขณะที่เอ่ยคำสั่ง
“ให้เวลาน้อยจังอะ”
“ตานึงประมาณ30นาที น้อยตรงไหน แค่นี้ก็คิดถึงแล้ว”
“วุ้ว ไปไกลๆเลยไป”
โซ่ฟาดมือเข้าที่ก้นของลมในทันทีที่อีกฝ่ายลุกขึ้น ก่อนที่เจ้าตัวจะหันมาชี้หน้าอย่างคาดโทษ
แต่เขากลับไม่ได้รู้สึกกลัวแม้แต่น้อย
คล้อยหลังที่คนเป็นแฟนเดินเข้าไปในห้องนอน
บนใบหน้าที่ยิ้มสนุกอยู่ในตอนแรกก็เปลี่ยนไปในทันใด ความเครียดปรากฎอยู่ภายในดวงตาคู่สวย
เขาเกลียดเหลือเกินกับการที่ต้องมานั่งเถียงกับคนที่ไม่รู้จักฟัง
ที่บนหน้าจอปรากฎชื่อของเมฆเด่นหราอยู่ตรงนั้น
เขาคุยกับแจงเสร็จแล้ว และโซ่เองก็ตัดสินใจทักไปคุยกับเมฆแบบตรงๆเพราะไม่อยากให้ทั้งคู่มีปัญหากัน นิ้วเรียวแตะลงไปด้วยจังหวะที่ค่อนข้างจะรัวเร็ว
และอีกฝ่ายก็พิมพ์ตอบกลับมาด้วยความไวแบบไม่ยอมแพ้
เขาเถียงกับเมฆจนเริ่มหน้าหงิก ภายในหัวมีแต่เรื่องเก่าๆถาโถมเข้ามา
แล้วนั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาพอใจเลยด้วยซ้ำ
ไม่อยากคิดถึงมันอีก
ไม่อยากนึกถึงอีก
ตอนนี้เขาเลือกที่จะอยู่กับปัจจุบัน
แต่คนที่ดึงมันเข้ามาเรื่อยๆนั่นก็คือเมฆนี่แหละ
“โซ่”
กายบางสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงเรียก
โซ่ปรับสีหน้าให้เป็นปกติก่อนจะรีบขานรับเสียงดัง
“หืมมม”
“เข้ามาได้แล้ว เร็วๆ”
“รีบจัง” ร่างเล็กหยัดกายลุกขึ้นในขณะที่มือยังคงพิมพ์ตอบและก้าวเข้าไปในห้อง
“เกมนี้จบไว คุยกับแจงเสร็จยัง?”
“เสร็จแล้ว”
ข้อความสุดท้ายถูกส่งไปพร้อมกับที่โทรศัพท์คู่ใจถูกโยนลงไปบนเตียงอย่างไม่ใยดี
คนตัวเล็กเขยิบขึ้นไปนั่งคร่อมอยู่บนตักอีกแกร่ง สองแขนสวมกอดไว้ที่ต้นคอแล้วจ้องใบหน้าหล่อนั้นแบบยิ้มๆ
ไม่ว่าจะมีเรื่องหนักใจอะไรขนาดไหน เขาสามารถสลัดมันทิ้งไปได้ง่ายๆเพียงแค่มองหน้าคนที่ชื่อวายุภัค
คนที่เป็นทั้งเพื่อนทั้งแฟน
คนที่เขามั่นใจว่าเลือกไม่ผิด
“ยิ้มอะไร”
“เล่นเกมเสร็จยัง”
“เสร็จแล้ว”
“เล่นเค้าบ้างมั้ย เสร็จเหมือนกัน”
ที่มุมปากกระตุกยิ้มชอบใจเมื่อได้ยินคำชวนแบบนั้น
มือหนาคว้าหมับเข้าที่สะโพกเล็กพร้อมกับบีบขยำด้วยความหมั่นเขี้ยว
“เล่นแฟนสนุกกว่าเกมแล้วถ้างั้นอะ”
“ก็เล่นดิ อยากให้เล่น”
“ขี้ยั่ว”
“ยั่วเธอคนเดียวเลยนะ”
ลมเลยหน้าขึ้นไปหัวเราะกับสรรพนามที่เปลี่ยนไปจากเดิม
ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือเขาเขิน แต่จะไม่ปฏิเสธว่าภายใต้ความเขินนั้นก็เต็มไปด้วยความรู้สึกดีที่แสนมากล้น
“เป็นเด็กดีนะครับ”
“อ๊ะ!” กายบางถูกเหวี่ยงลงนอนหงายพร้อมกับร่างหนาที่เคลื่อนขึ้นมาคร่อมทับ เขายกมือขึ้นเกลี่ยที่ตรงข้างแก้ม
สายตาจ้องประสานกับโดยอัตโนมัติ โซ่ไล่มองตั้งแต่สันจมูกได้รูปก่อนจะลากนิ้วไปกดขยี้อยู่ที่ตรงริมฝีปากหนา
“เป็นเด็กดีแล้วจะได้อะไร”
“ได้เค้าไง” เสียงทุ้มตอบแบบขำๆพร้อมกับอ้าปากงับนิ้วเรียวเบาๆ หากแต่คนดื้อกลับสอดเข้ามาจนสุดข้อพร้อมกับดึงเข้าดึงออกเป็นจังหวะ
ลิ้นร้อนเกี่ยวเข้ากับนิ้วเรียวยาว ริมฝีปากหนาดูดดุนจนเกิดเสียงดัง
แถมสายตาที่จ้องมายังเขาก็ราวกับว่าจะกลืนกินเข้าไปทั้งตัว
ไม่เหลือเอาไว้ให้ใครอื่นได้เชยชม และที่สำคัญ.. มันกลับทำให้คนถูกมองรู้สึกโหวงๆในท้อง
ราวกับว่าพายุที่สงบนิ่งอยู่ในตอนแรกพร้อมที่จะสาดโถมเข้าใส่ชายฝั่ง
“ได้ยังไงทำให้เค้าดูหน่อย”
“อยากได้แบบแรงๆหรือเบาๆ”
ร่างสูงผละออกมาถามพร้อมกับไล่จูบลงไปตามข้อแขนเรียวเล็ก
“เบาๆ”
“ได้ครับ เบาๆ”
“อื้อ” ก่อนที่ริมฝีปากของทั้งคู่จะจรดเข้าหากัน นี่ถือเป็นจูบแรกหลังจากที่พวกเขาตกลงคบเป็นแฟนอย่างจริงจัง
มันก็เหมือนทุกครั้ง เป็นหลักฐานที่บอกได้เป็นอย่างดีว่าพวกเขารู้สึกต่อกันมาก่อนหน้านั้นแล้ว
แขนทั้งสองข้างสวมกอดคนด้านบนเอาไว้ในขณะที่ร่างสูงบดจูบอย่างอ่อนโยน
ลมสอดลิ้นเข้าเกี่ยวกระหวัดก่อนจะดูดเม้มที่ตรงริมฝีปากย้ำๆ ถ่ายทอดความรู้สึกทั้งหมดให้อย่างไม่ปิดบัง
มันแสนจะหอมหวานจนโซ่รู้สึกราวกับว่าล่องลอยอยู่ในอากาศ
ฝ่ามืออุ่นๆสอดเข้าไปยังใต้เสื้อ
ลูบไล้ไปทั่วผิวกายขาวเนียนราวกับจะให้ความร้อนนั้นจับจองทุกอณูของตัวเขาไว้
ปลายนิ้วแกร้งเขี่ยเล่นที่บริเวณตุ่มไต
ในขณะที่รสจูบยังคงหวานละมุนจนร่างเล็กรู้สึกเคลิบเคลิ้ม
มือเล็กดึงชายเสื้อของอีกฝ่ายขึ้น
เป็นผลให้รสจูบถูกขัดจังหวะพร้อมกับเสื้อตัวเก่งที่ถูกโยนไปข้างเตียง
โซ่ลากมือไปตามแผงอกแกร่งก่อนจะเผยอปากรับจูบเอาไว้อีกหน
คราวนี้ดุดันกว่าเดิมเล็กน้อย แต่ก็ยังคงทิ้งความหวานที่แสนหอมเอาไว้ตรงปลายลิ้นไม่ต่างจากเดิม
เขาสะกิดนิ้วลงบนยอดอกแกร่ง
ในขณะที่ลมเองก็ขยี้ตรงตุ่มไตสีอ่อนจนกายบางขนลุกซู่ เสียงครางเบาๆดังออกมาจากลำคอ
พร้อมกับใบหน้าเนียนที่เชิดขึ้นเบิกทางให้จมูกโด่งซุกไซร้ค้นหาความหอม
“อื้อ..”
ร่างเล็กเปลี่ยนบริเวณไปที่ซอกคอของอีกฝ่ายแล้วงับลงไปเบาๆ
เขาประทับรอยเอาไว้สองสามจุดอย่างนึกสนุก
เป็นเพราะตอนนี้ลมเองก็ไม่ได้รับงานถ่ายแบบอะไร
ที่ผ่านมามีแต่อีกฝ่ายทำเขาอยู่คนเดียวเนื่องจากไม่อยากให้มีปัญหาในการรับงาน
“ไหนบอกไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย
มันก็ยังไม่หายไปหนิ” เสียงหวานเอ่ยถามเมื่อลูบมือไปตามกล้ามท้อง
คำพูดนั้นทำให้คนตัวสูงหัวเราะออกมาเบาๆ
ก่อนจะเป็นฝ่ายพลิกตัวนอนหงายแล้วดึงให้โซ่ขึ้นมาคร่อมตัวเองเอาไว้แทน
“ก็ไม่ได้หายไปหมด ใครจะปล่อยให้หาย”
“ทำไมอะ”
“เค้ารู้เธอชอบ”
“ก็ชอบดิ ยิ่งเป็นของแฟนยิ่งชอบ”
โซ่พูดพร้อมกับโน้มลงไปจูบอยู่ตรงกลางท้องแกร่ง
ริมฝีปากบางกดแนบลงไปทั่วบริเวณก่อนจะส่งลิ้นออกมาเลียลากขึ้นมาที่ตรงด้านบน
ความเสียวแปลบราวกับไฟฟ้าช็อตไปทั้งลำตัว
ลมกระตุกยิ้มในตอนที่เห็นสีหน้าเร้าอารมณ์ของคนตรงหน้า โซ่ลากลิ้นขึ้นมาจนถึงยอดอก
ก่อนจะอ้าริมฝีปากครอบครองมันลงไปแล้วใช้ปลายลิ้นเขี่ยวนจนเกิดรอยน้ำสีใส
แถมไม่พอมือซนๆนั้นยังร่นลงต่ำแล้วนวดคลึงที่บริเวณกลางลำตัวของเขาอีกต่างหาก
“อืม..”
ความจริงมันก็แข็งอยู่แล้วแหละ แต่โดนแฟนล้วงแบบนี้ใครกันจะไปทนได้
ทั้งๆที่ตอนแรกเขาเป็นฝ่ายคุมเกมแท้ๆ แต่ ณ ปัจจุบัน นายวายุภัคทำเพียงแค่นอนหลับตาพริ้มแล้วก็รอให้คนตัวเล็กชักจูงไปเรื่อยก็เท่านั้น
“อ่า..”
เขาหดหน้าท้องเมื่อพบว่ากางเกงถูกร่นลงต่ำ ส่วนอ่อนไหวตั้งขึ้นด้วยแรงอารมณ์ที่แทบจะทะลัก
โซแนบใบหน้าเข้ากับมันอย่างรักใคร่ เป็นภาพที่มองแล้วใจเต้นจนแทบจะระเบิด
ก่อนที่ริมฝีปากสวยๆ จะครอบครองที่ตรงส่วนหัวแล้วดูดดุนราวกับมันเป็นขนมแสนอร่อย
ลมทิ้งหัวลงกับหมอนใบใหญ่แล้วหลับตาลง
ร่างสูงหอบแรงในตอนที่อีกฝ่ายผงกหัวขึ้นลงเป็นจังหวะเนิบนาบ
ริมฝีปากอ่อนนุ่มบดคลึงไปทั่วส่วนหัว น้ำลายสีใสเคลือบมันจนฉ่ำวาวน่ามอง
แล้วความลึกก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อโซ่กดใบหน้าลงจมเข้ากับตัก
“ซี๊ดด เธอ.. เค้าเสียว”
“อื้อ..อึก”
โซ่เหลือบตาขึ้นมองแล้วเพิ่มจังหวะให้เร็วยิ่งขึ้น
ทำเอาคนตัวสูงถึงกับสบถคำหยาบออกมาด้วยความอดกลั้น
มือหนาเลื่อนไปจับที่กลุ่มผมสีสวยแล้วลูบเบาๆ ยิ่งในตอนลิ้นร้อนบดเข้ากับส่วนปลายหยักก็ทำเอาเกร็งไปหมด
“เธอ..อะ จะเอาให้เสร็จเลยเหรอ”
“อยากเสร็จในตัวเค้าหรือในปาก”
“ในตัว”
ใบหน้าหวานยกยิ้มอย่างน่ารัก
ก่อนจะเป็นฝ่ายเอี้ยวตัวไปหยิบเจลตรงหัวเตียงมาให้
แขนแกร่งคว้าหมับเข้าที่เอวบางพร้อมกับขยับตัวขึ้นมาซ้อนทับเอาไว้
สันจมูกโด่งกดหอมไปตามท้ายทอย สะโพกแกร่งบดเบียดส่วนอ่อนไหวเข้ากับร่องก้นนุ่มนิ่มเป็นจังหวะในขณะที่เปิดขวดเจล
“ขอท่านี้ได้ปะ”
“ตามใจคุณแฟน..อื้อ..”
โซ่นิ่วหน้าเล็กน้อยเมื่อสิ่งคับใหญ่สอดใส่เข้ามาในร่าง
เอาจริงๆเขาไม่ค่อยชอบความเย็นของเจลเท่าไหร่นัก
แต่เพราะว่าความลื่นของมันนี่แหละทำให้ลมดันเข้ามาได้อย่างง่ายๆ
แผ่นหลังถึงขั้นแอ่นรับในตอนที่ความลึกเพิ่มมากจนเกินไป
สะโพกบางถูกรั้งไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสม
แขนยาวยันตัวเองเอาไว้กับเตียงนิ่มในขณะที่คนด้านหลังกดแช่ตัวเองไว้ชั่วครูแล้วค่อยซอยเอวเป็นจังหวะ
“เธอ..อึก ลึกจัง”
“ก็ชอบท่านี้เพราะลึกอะ”
“อื้อ! ลึกไปแล้ว..อ๊ะ” ร่างเล็กเชิดหน้าขึ้นสูง
มือที่ยันแขนไว้กับเตียงขยุ้มผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่ แต่คำพูดนั้นกลับถูกมองข้ามเนื่องจากคนด้านหลังไม่ยอมรับฟัง
บั้นท้ายกลมถูกแยกออกอีกนิดพร้อมกับสะโพกแกร่งที่ดันเข้ามาจนสุด
เอวหนาซอยเพิ่มจังหวะซอยให้มากยิ่งขึ้นจนกายบางเริ่มจะสั่นไปตามแรงโยก
“อ่า..ลึกๆ.. ซี๊ด ก็ดีแล้ว”
สายตาเรียวจ้องมองแผ่นหลังเนียนที่แอ่นรับอยู่ตรงหน้าด้วยความพอใจ
อยู่ในท่านี้เขามองสัดส่วนของร่างเล็กได้อย่างครบถ้วน ยิ่งในตอนที่ร่างเล็กหันมามอง
สายตาเว้าวอนนั้นก็แสนจะยั่วยวนชวนให้เขากระแทกเข้าไปแบบหนักหน่วงมากกว่าเดิม
“ลม..อ อื้อ”
“ยังอยากให้ทำเบาๆอยู่มั้ย”
“ม..ไม่ อ๊ะ.. ทำเร็วอีกนิด..นึง
อื้อ”
แขนอ่อนแรงจนใบหน้าฟุบลงกับหมอน
แต่สะโพกกลับถูกยึดขึ้นสูงจนเข่าแทบจะไม่ติดเตียง ร่างสูงทำตามคำขออย่างทันท่วงที
แกนร้อนตอกลงไปยังช่องทางอ่อนนุ่มเป็นจังหวะถี่
เกิดเสียงหน้าขากระทบกับแก้มก้นเนียนเป็นเสียงดังก้อง
เตียงใหญ่สั่นไหวไปตามแรงขยับ
เหงื่อกาฬของทั้งคู่ซึมออกมาตามหน้าผากเนื่องจากร่างกายที่ร้อนระอุ ถ้าหากจะเปรียบก็คงเหมือนกับภูเขาไฟที่กำลังจะระเบิด
ในช่วงที่แผ่นดินสั่นไหว พวกเขาก็โถมกายเข้าใส่กันแบบไม่อ่อนข้อเลยแม้แต่น้อย
โซ่บิดหลังแอ่นด้วยความเสียว
ยิ่งในตอนที่ลมโน้มตัวเข้ามาแล้วซอยเอวเข้ามาถี่ๆ เขาก็ยิ่งร้องเสียงหลง
คนตัวสูงเอื้อมแขนยันเอาไว้กับเสาตรงหัวเตียง
บดเบียดแกนร้อนเข้าใส่อย่างไม่รู้จักเหนื่อย
เพราะความต้องการที่มีนั้นมากจนแทบจะทะลัก
“อ๊า..อ อื้อ.. เธอ เธอ..”
“โซ่ เรียกหน่อยดิ..ซี๊ดด อ่า”
“ลม..อึก ทำเค้า อ๊ะ..”
“ทำอยู่นี่ไง..อืม”
“ทำเรื่อยๆ อย่า..อ๊ะ อย่าหยุด”
คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันจนแทบจะเป็นปม
ริมฝีปากเผยอครางด้วยความสุขสมพร้อมกับมือเล็กที่ชักรูดตรงแกนร้อนของตัวเอง
ร่างเล็กกึ่งสะโพกเข้าหาอย่างรู้งาน
รองรับความใหญ่ที่กระทั้นเข้ามาเรื่อยๆ เป็นจังหวะเดียวกับการขยับมือที่แสนจะรัวเร็ว
แผ่นดินไหวผ่านพ้นไปแล้ว
และข้างในภูเขาไฟก็กำลังเดือดปุดๆ
ร่างกายของพวกเขาร้อนระอุจนเครื่องปรับอากาศต้องยอมพ่าย
ภายในห้องกว้างมีแต่เสียงครางและเสียงเนื้อดังสลับกันเป็นดนตรีประกอบ
เขาโถมกายเข้าใส่กัน
มีเพียงการหอบหายใจเท่านั้น เนื่องจากระยะเวลาทำให้ไม่สามารถปั้นคำพูดได้อีกต่อไป
“ไม่..ไหวแล้ว”
“เธอ เค้า..จะออกเหมือนกัน”
“ลม! ฮึก..อ๊า”
สุดท้ายสิ่งที่อัดอั้นอยู่ข้างในก็ทนไม่ไหวจนระเบิดออกมาภายนอก
หยาดน้ำสีขุ่นพวยพุ่งออกมาเป็นสาย มือบางสั่นระริกไปด้วยความเสียว
แต่ก็ต้องกัดฟันรูดมันเรื่อยๆเพื่อให้ตัวเองได้ปลดปล่อยออกมาจนหมด
“ซี๊ดด..”
ช่องทางร้อนเองก็บีบรัดแน่นเสียจนลมคำรามเสียงสั่น เขาปลดปล่อยความร้อนเข้าสู่ช่องทางนั้นจนเต็มเปี่ยม
วินาทีที่ถอนแกนกายออกน้ำเหนียวหนืดก็ไหล่ย้อนออกมาตามเรียวขาของคนตรงหน้า
มันช่าง
เป็นภาพที่น่ามอง
และลมเองก็ชอบที่จะได้เห็นแบบนั้น
“ฮื่อ.. มันไหล”
“ปล่อยมันเลอะไป ของเธอก็เลอะเตียงอยู่แล้วปะ”
วายุภัคคว้าคนเป็นแฟนเข้ามากอดแน่น
เขากดจมูกหอมไปตามข้างแก้มจนโซ่หลับตาปี๋เมื่อคนข้างๆไม่ยอมหยุดเสียที
“รักนะ”
แล้วคำพูดนั้นก็ทำให้คนฟังไม่แน่ใจด้วยว่าที่ตอนนี้ได้ยินเสียงหัวใจเต้นแรงๆเนี่ย
เป็นเพราะเหนื่อยหรือเขินลมกันแน่
“รักมากแค่ไหนอะ?”
โซ่ถามต่อพร้อมกับเงยหน้ามอง
“รักมากๆ รักแบบไม่เผื่อใจ”
“...”
“แต่เธอคงไม่ทำเค้าเสียใจหรอกปะ?” ลมก้มลงถามต่อเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้ตอบอะไร
เรียกให้โซ่ยกยิ้มขึ้นบางๆ แล้วพยักหน้าลงช้าๆ
“อือ ไม่ทำหรอก”
“เค้าก็จะไม่ทำให้เธอเสียใจเหมือนกัน”
“ลม”
“หืม?”
“ถ้าใครพูดอะไรให้ฟัง
เธอต้องฟังแต่เค้านะ”
วายุภัคเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ยินดังนั้น
ก่อนที่เขาจะพยักหน้าตอบอย่างไร้ข้อกังขา
มือหนายกขึ้นลูบไปตามกลุ่มผมเนียนนุ่มเบาๆ อย่างปลอบประโลม
“ฟังแค่เธออยู่แล้วครับ”
“อื้อ”
แต่ยังไง
ข้างในใจก็ภาวนาไม่ให้เกิดเรื่องแย่ๆ
ที่ทำให้ความสัมพันธ์ของเขาทั้งสองคนต้องสั่นคลอนอยู่ดี
“เรียกกันแบบนี้น่ารักดีว่ะ
ต่อไปนี้ทำให้ชินนะ”
“หืม?”
ความคิดในตอนแรกถูกฉุดกลับเข้ามาในโลกความจริงอีกครั้งเมื่อเจ้าคุณวายุภัคเปลี่ยนเรื่องคุยอย่างหน้าตาเฉย
“เธอกับเค้าไง”
“อะไร”
“ไม่ต้องเรียกเฉพาะตอนเอากันได้ปะ
เรียกแบบปกติเลย”
“จะไม่เขินหรอวะ” โซ่หัวเราะร่วน
เขาก็ไม่ปฏิเสธหรอกว่ามันก็น่ารักดี แต่ว่าแต่.. ถ้าในอารมณ์ปกติเอามาใช้คุยกัน
บอกตรงๆ มันก็รู้สึกยังไม่ชินยังไงก็ไม่รู้ คงเพราะปกติเป็นเพื่อนกัน คุยกูๆ
มึงๆมาตลอดล่ะมั้ง
“เขิน แต่ชอบ”
“แหนะ”
“เอาตามนี้แหละ ถ้าพูดไม่ดีโดนตีปาก”
ลมเขี่ยจมูกของร่างเล็กเบาๆ แล้วหัวเราะเมื่อพบว่าโซ่มองอย่างเคืองๆ
“ตียังไง?”
“อยากโดนปะล่ะ เอาของแข็งๆตีอะ
ที่ไม่ใช่มือ”
“ไม้หรอ”
คิ้วสวยเลิกขึ้นด้วยท่าทางกวนประสาท คนแบบโซ่มีหรือจะไม่รู้
แต่ท่าทางไม่รู้ไม่ชี้ที่แสดงออกมาก็ทำให้คนมองอดแกล้งไม่ลง
“ลองโดนตอนนี้เลยมะ?”
“ไม่!”
“โดนเหอะโซ่ อยากฟาดแล้ว”
“ฮื่อ! เค้ายังไม่ได้พูดไม่ดีเลย”
“อันนี้จะฟาดเป็นตัวอย่างเฉยๆ
ฟาดจนร้อง”
กายแกร่งกดร่างเล็กให้นอนจมลงไปกับหมอนก่อนจะเคลื่อนมาคร่อมเอาไว้แถวๆช่วงอก
“อื้อ ลม!”
“จะได้รู้ว่าอย่ากวนเค้าอีก
เข้าใจมั้ยครับเธอ”
talk : มีคนถามทำไมลมโซ่ไม่ค่อยคุยกันในแชทเลย ก็เขาอยู่ด้วยกัน จะพิมพ์แชทคุยกันทำไมม 555555555 #ใครเป็นแฟนใคร
เจอกันตอนหน้าค่า
โอ้ยๆๆๆๆๆๆ น่ารัก ฟินมากๆๆๆๆ ตายค่ะแงงง งุ้ยยย รักไรท์❤
ตอบลบพี่แนน~แต่งหลินโฮเยอะๆนะคะ รักพี่แนนน้าาา❤❤❤
ตอบลบ