Special : Sex ( Earth x Jaokhun ) end
WE ARE FRIEND
Earth x Jao-Khun
Special : Sex
“10”
“9”
“8”
“7”
“6”
“5”
“4”
“3”
“2”
“1”
“Happy Birthday”
“ฮิ้ววววว Happy Birthday”
“สุขสันต์วันเกิดเว้ยยยยยยย ไอ้เอิร์ท”
“ไอ้เหี้ยยย แก่ขึ้นอีกปีแล้ว ขอให้มึงมีความสุขมากๆ เงินทองไหลมาเทมา
อยู่กับพวกกูแบบนี้ไปนานๆ รักกับเจ้าขุนไปร้อยปี”
“กูจะอยู่ถึงร้อยปีปะไอ้สัส ฮ่าๆๆ”
เจ้าของเขี้ยวเสน่ห์ฉีกยิ้มกว้างก่อนจะกอดตอบเพื่อนสนิทอย่างเดย์ คำอวยพรล้นหลามยังคงดังไม่ขาดสาย
ด้วยความที่เจ้าตัวเป็นคนอัธยาศัยดี พูดเก่ง ไม่ว่าจะอยู่กับใครก็เข้ากับเขาได้ไปซะหมด
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่เอิร์ทจะมีเพื่อนเยอะขนาดนั้น
ยิ่งเวลาผ่านไป ได้ย้ายที่ทำงานใหม่ ก็มีแต่คนดีๆรายล้อม
เรียกได้ว่าชีวิตของเขาอยู่ในช่วงขาขึ้นเลยก็ว่าได้ มองจากภายนอกเอิร์ทก็ถูกจัดอยู่ในกลุ่มคนที่มีพร้อมทุกอย่างไม่ขาดอะไร
ส่วนเพื่อนในกลุ่มของเขานั้น..
เดย์ อิม ลม โซ่ แจง..
ที่มางานวันเกิดก็มีเท่านี้
แต่อย่างน้อยคนที่อยู่ไกลอย่างไอ้เมฆก็ส่งข้อความมาหาตั้งแต่เมื่อวาน
ส่วนเบรฟ.. รายนั้นก็ได้คุยกันเป็นบางครั้ง
เจ้าตัวอันเฟรนด์เพื่อนคนอื่นทั้งหมด เหลือเพียงเขาคนเดียวที่ยังแอดกันไว้อยู่ อาจเพราะว่ากับเขาเองไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน
ก็เลยได้ดูต่างหน้าว่าตอนนี้คนทางนั้นก็สบายดีเหมือนกัน
ด้านชีวิตรักก็เหมือนจะไม่มีปัญหาอะไร
เวลาผ่านไปไวพอสมควร แต่ไม่ว่าคิดถึงบรรยากาศในตอนเรียนมัธยมทีไร
เขาก็ยังรู้สึกอบอุ่นในหัวใจเสมอ
ถึงแม้ว่าโตขึ้นมาแล้วจะมีปัญหาจนสมาชิกในกลุ่มเหลือกันไม่ครบ
แต่ช่วงเวลาในตอนนั้น.. มันก็ดีกับเขามากจริงๆ
ทุกคนโตขึ้นและมีทางเดินไปตามทางของตัวเอง
อย่างน้อยเขาก็ยินดีที่คนทั้งกลุ่มมีหน้าที่การงานที่ดี มีสังคมที่เป็นมิตร
และฉลาดคิดฉลาดพูดมากกว่าวันก่อนๆ
หัดเอาเรื่องที่ผิดพลาดมาปรับปรุงแก้ไขจนทุกอย่างลงตัวอย่างเช่นในตอนนี้
“อย่าเมากันนะเว้ยไอ้สัส พรุ่งนี้ทำงาน” เอิร์ทเอ่ยเตือนเพื่อนๆ
ในขณะที่เขาส่งมือไปขยี้หัวของโซ่ ซึ่งนั่งอยู่บนตักลมในตอนนี้
“กูเมาไม่ได้อยู่แล้ว ถ่ายแบบ”
“เป็นเกียรติขนาดไหนที่นายแบบแนวหน้ามางานวันเกิดของกู คนที่ทำงานแม่งอัพสตอรี่อวดกันใหญ่เลยไง
มึงเนี่ยทำให้กูลำบาก แฟนคลับมาออกันเต็มหน้าร้าน” เขาเอ่ยแซวพลางหัวเราะ
ก่อนจะหันไปมองรอบๆหน้าร้าน บรรดาแฟนคลับของลมส่วนหนึ่งก็ยังอยู่
แต่ด้วยจำนวนการ์ดที่มากพอก็ทำให้ไม่มีปัญหาอะไร แถมเจ้าขุนก็ยังใจดี
ให้คนนำน้ำดื่มและขนมเล็กๆน้อยๆไปให้อีกด้วย
“ดีซะอีก ร้านของเจ้าขุนจะได้ขายดีๆไง
อย่างน้อยเก้าอี้ตัวนี้กูก็นั่ง” ลมว่าพลางลูบมือไปตามเบาะหนัง
“เอาไปประมูลเลยดีมั้ย”
“กูก็ไม่ได้ห้ามนะ แบ่งส่วนหนึ่งให้การกุศลด้วย”
คนหน้านิ่งก็ยังพูดออกมาด้วยน้ำเสียงชิลๆเหมือนเดิม
ถึงแม้ว่าคนฟังจะพอเดาออกว่านั่นคือการเล่นมุกของวายุภัคก็เถอะ
แต่ก็ไม่นึกว่าจะสละเวลามาเช่นกัน..
เพราะงานวันเกิดวันนี้จัดที่ร้านแฟนของเขา
เป็นคนสองคนที่เคยมีอดีตด้วยกันมาก่อน
กับเรื่องความสัมพันธ์ของเจ้าขุนและลม ความจริงมันก็ผ่านมานานมากแล้ว
ตั้งแต่เลิกคุยกันตอนนั้นก็แทบจะไม่ได้อยู่ในวงโคจรของกันและกันอีก ต่างคนก็ต่างใช้ชีวิตไปตามเส้นทางของตัวเอง
และด้วยหน้าที่การงานก็ทำให้เจอกันค่อนข้างยาก เลยห่างออกจากกันไปตามกาลเวลา
ในเรื่องของความรู้สึกทางฝั่งไอ้ลม เขาเองก็รู้ว่าไม่มีอะไรหรอก
มันรักโซ่อย่างกับอะไรดี รักขนาดที่ว่าถึงแม้จะยังไม่มีกฎหมายจดทะเบียนสมรสสำหรับรักร่วมเพศในประเทศเรา
แต่เจ้าตัวก็ได้ประกาศออกสื่อว่าจะจัดงานแต่งงานกับโซ่ในเร็วๆนี้ด้วย
เขาก็นับถือในความใจกล้าขนาดนั้น
ทั้งๆที่อยู่ในช่วงขาขึ้นของตัวเองแต่ก็ไม่กลัวว่ากระแสจะหายหรือว่าโดนใครต่อต้าน แต่ใครจะรู้ว่าการตัดสินใจของลมมันก็เกิดผลดี
อาจเป็นเพราะคนสมัยนี้เริ่มเปิดกว้างและเปิดใจยอมรับมากกว่าสมัยก่อน
ก็เลยทำให้ลมได้เป็นนายแบบ LGBT ที่ร่วมทำแคมเปญรณรงค์เรื่องความเท่าเทียมทางเพศกับแบรนด์ต่างๆมากมาย
แต่กับเจ้าขุน..
ตาเรียวเหลือบหันไปมองคนเป็นแฟน เขาก็เชื่อใจนั่นแหละว่า ‘รัก’
ที่เจ้าตัวบอกกันอยู่ทุกคืนมันเป็นความจริง
พวกเขาอยู่ด้วยกันโดยที่ไม่มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง เหมือนจะเข้ากันได้ทุกอย่างเลยด้วยซ้ำ
อาจเป็นเพราะว่าเอิร์ทขี้ตามใจด้วยแหละ แต่เขาก็ไม่ได้อึดอัดอะไรนะ กับการที่ต้องคอยเป็นฝ่ายยอมแพ้
เพราะคิดอยู่เสมอว่าถ้าคนจะคบกันให้รอดมันต้องมีทั้งฝ่ายที่อ่อนและแข็งอยู่แล้ว
สรุปได้ว่าเรื่องของพวกเขานั้นก็..ปกติสุขดี
การดูแลเอาใจใส่ยังคงเป็นเหมือนเมื่อก่อน ไม่สิ..
ต้องบอกว่ามันดีขึ้นมากๆเลยจนใครต่อใครต่างก็อิจฉา
เจ้าขุนคือคนสำคัญของเอิร์ท
ส่วนเอิร์ทก็คือคนสำคัญของเจ้าขุน
ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันแบบครอบครัว
ไม่ว่าเจ้าขุนต้องการอะไรเอิร์ทก็เป็นให้ได้เสมอ เป็นที่ปรึกษาทางใจ ที่ปรึกษาเรื่องงาน
เป็นเพื่อนไปชอปปิ้ง หรือแม้กระทั่งเป็นพี่ชายเวลาที่อยากได้ความอบอุ่น
จริงๆแล้วสถานะของเขาทั้งสองคนคือ ‘แฟน’ เผื่อบางทีอาจจะลืมว่ามีคำนี้เอาไว้ให้ใช้เรียกอีกคำ
แต่ก็ไม่รู้สิ..
คบกันมาปีครึ่งได้แล้ว.. หลังจากที่ตกลงเป็นแฟนกันในวันนั้น แต่พวกเขายังอยู่ด้วยกันโดยไม่มีเรื่องของคำว่าเซ็กส์เข้ามาเกี่ยวข้อง..
หลายคนอาจจะคิดว่าบ้า แต่มันก็เป็นความจริงเพราะเอิร์ทก็ไม่ได้ปริปากขอ
ถึงแม้ว่าอายุของพวกเขาจะมากจนเลยขั้นที่ต้องมารักนวลสงวนตัวแล้วก็ตาม
แถมทั้งเขาและเจ้าขุนก็ไม่ได้สดซิงหรือไม่เคยผ่านประสบการณ์ในเรื่องอย่างว่ามาก่อน
แต่ในเมื่อก่อนนอนทำเพียงแค่กอดกันแล้วผล็อยหลับไปเฉยๆ..
ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้ เอิร์ทก็ไม่แน่ใจนักว่าเจ้าขุนอยากจะให้มันเกิดขึ้นรึเปล่า
บอกตรงๆว่าเขาไม่กล้า และเอาจริงๆ
ลึกๆข้างในใจก็ยังสงสัยว่าเจ้าขุนยังรักลมอยู่หรือไม่
เมื่อก่อนก็ไม่คิดอะไรหรอก แต่พอมาตอนนี้..
จู่ๆในอกข้างซ้ายมันก็เจ็บจี๊ดขึ้นมาซะอย่างนั้น
ทั้งๆที่เขาคิดว่าตัวเองจะไม่ดราม่างี่เง่าแล้วนะ
เฮ้อ..
“กูไปโทรหาแม่แป๊บ ไหนๆก็วันเกิด พวกมึงเต็มที่เลยนะวันนี้”
เพราะไม่อยากให้ใครสังเกตได้ว่ากำลังรู้สึกไม่ดี แล้วก็ไม่อยากให้บรรยากาศของวันสำคัญกร่อยลง
ก็เลยคิดว่าควรจะไปอยู่คนเดียวเงียบๆสักพักน่าจะดีกว่า
“แม่มึงยังไม่นอนอีกเหรอวะ ดึกแล้วนะ” เดย์เป็นฝ่ายหันมาถาม
“แม่กูติดซีรีส์จะตาย ฮ่าๆ นอนทำไมเวลานี้อะ
มึงไม่รู้จักเนตฟลิกซ์เหรอวะ” เอิร์ทตอบพร้อมกับหัวเราะจนตาหยี
เรื่องเก็บความรู้สึกเขาว่าเขาก็เก่งไม่แพ้ใครเหมือนกัน
เพราะไม่ทำให้เพื่อนผิดสังเกตเลยสักนิด
“โอ้โห คุณแม่วัยรุ่นเหรอ?”
“เออ นี่เพิ่งซื้อไอแพดให้เมื่อเดือนที่แล้วไง จอใหญ่สะใจ
ดูทั้งวันไม่หลับไม่นอน”
“เคๆ เจ้าขุนมันไปเตรียมอาหารในครัวปะวะ เดี๋ยวถ้ามาละจะบอกให้”
“เดี๋ยวกูไปช่วยมันทำอาหารอยู่แล้ว ให้บอกเลยปะเอิร์ท?” อิมกับแจงว่าพลางพากันลุกขึ้น
“ได้ๆ บอกเลยก็ได้ เผื่อมันตามหากู”
เมื่อเอิร์ทเห็นดังนั้นจึงพยักหน้ารับ
ก่อนจะปลีกตัวออกมาแล้วเดินขึ้นไปอยู่ที่ห้องชั้นบน
เขาพยายามสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เพื่อที่จะเรียกสมาธิกลับมา
ท่องเอาไว้ว่าคิดมากไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก
ยังไงเรื่องที่เกิดขึ้นมันก็นานมากแล้ว
แต่ก็ไม่รู้สิ..
เจ้าขุนก็ดูจะพยายามหลบหน้าลมอยู่
มันก็เลยทำให้เขาสงสัยว่าถ้าไม่มีใจให้แล้วจริงๆ จะพยายามทำแบบนั้นทำไม..
ไม่คิดในแง่ร้ายสิวะไอ้เอิร์ท
มือหนายกขึ้นมาขยี้หัว
ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าเมื่อก่อนก็ไม่เคยคิดมากหรือคิดเล็กคิดน้อย
แต่ทำไมวันนี้ถึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
แล้วก็อาจจะเป็นเพราะว่าเขาเป็นฝ่ายให้คำปรึกษากับคนอื่นมาตลอดนั่นแหละมั้ง
ไม่เคยมีเหตุการณ์ที่ต้องพึ่งใครสักที จนตอนนี้ก็เลยไม่รู้ว่าจะระบายให้ใครฟังดี
อีกอย่าง.. เอิร์ทก็คิดว่ามันไร้สาระด้วยนั่นแหละ จะระแวงไปทำไม
ในเมื่อทั้งลมและโซ่ก็ยังรักกันดีอยู่ตรงนั้น ส่วนเจ้าขุน.. ก็แค่เข้าไปทำอาหารให้แขกเฉยๆ
มันก็แค่นี้เองล่ะน่า..
เอิร์ทปล่อยตัวเองนั่งนิ่งๆอยู่ในห้องนานเท่าไหร่เขาก็ไม่รู้เช่นกัน
นาฬิกาบนผนังยังคงทำหน้าที่ของมันต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งได้ยินเสียงเปิดประตูดังมาจากทางด้านหลัง
เรียกให้ร่างสูงรีบยกมือขึ้นมาลูบหน้าก่อนจะหันไปมองในทันที
“อ้าว..”
“ทำไมไม่ลงไปซักทีอะ ไอ้เดย์เริ่มจะเมาแล้ว”
นี่เขาขึ้นมาอยู่คนเดียวนานขนาดนั้นเลยเหรอ?
เจ้าขุนนั่นเองที่เป็นฝ่ายทัก
ยามที่เห็นใบหน้าของแฟนที่รักก็ทำให้เขายิ้มออก
ความกังวลใจคลายลงไปเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายสนใจกันไม่เบา
“แล้วไหนอะที่คุยกับแม่ คุยเสร็จแล้วเหรอ?”
“อ..อ๋อ เสร็จแล้วๆ แม่กูขอตัวไปนอนละอะ” เขาหัวเราะแห้ง
“แล้วก็ไม่รีบลงไปข้างล่าง เดี๋ยวพวกนั้นก็กลับกันแล้ว”
“มันบอกว่าจะนอนที่นี่ ยกเว้นเพื่อนที่บริษัทกูอะ
เดี๋ยวก็แยกย้ายกันกลับไปแล้วล่ะมั้ง”
“เป็นอะไรรึเปล่า?”
ก่อนที่คนช่างจ้อจะเงียบไปเมื่อเจอคำถามแบบตรงๆ
เจ้าขุนจ้องตากับเขาราวกับว่าต้องการหาคำตอบที่แท้จริง
แล้วก็น่าจะเป็นครั้งแรกที่คนอย่างเอิร์ทไม่กล้าสบตา เขาแสร้งทำเป็นหันไปมองทางอื่นก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ
“ทะเลาะกับแม่เหรอ?”
“ทำไมมึงถึงถามว่ากูเป็นอะไรรึเปล่า?” เขาเลี่ยงคำตอบ เอิร์ทส่งคำถามออกไปแทนด้วยใจที่หมายจะเปลี่ยนเรื่อง
แต่ในหัวกลับคิดไม่ออกว่าจะคุยอะไรดี
“เพราะมึงไม่ปกติ”
“ยังไง?”
“มึงเป็นคนรักเพื่อนจะตายไป
นี่มันแปลกที่ปล่อยให้เพื่อนอยู่ข้างล่างแล้วตัวเองขึ้นมานั่งเงียบๆบนนี้” น้ำเสียงของเจ้าขุนไม่ได้กดดัน
แต่กลับทำให้หัวใจของคนฟังเต้นไม่เป็นจังหวะ ในหัวคิดหาคำพูดที่จะใช้แก้ตัวได้
แต่คราวนี้เอิร์ทคงต้องยอมรับจริงๆแล้วว่ามันโล่งไปหมด
“...”
“ยิ่งเพื่อนกลุ่มม.ปลาย กว่าจะนัดเจอกันก็ยาก ถ้ามึงปกติดีคงจะไม่มานั่งอยู่ตรงนี้หรอก”
นับว่าน่าประทับใจที่เจ้าขุนเอาใจใส่เขามากขนาดนี้
เอิร์ทถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะหัวเราะ เขาพบว่าตัวเองนั้นคิดมากไป
ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อความสัมพันธ์เลยจริงๆ
“ขอโทษนะ”
“คิดมากเรื่องอะไร ไหนบอก”
เจ้าขุนขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อยพร้อมกับจ้องเขม็ง ทำเอาคนถูกมองถึงกับหายใจไม่ทั่วท้อง
แต่เอิร์ทก็เลือกที่จะส่ายหน้าปฏิเสธ
“มันเป็นเรื่องเล็ก ไม่มีอะไรหรอก”
“ถึงจะเรื่องเล็กกูก็อยากรู้”
“...”
“แต่ดูจากรูปการณ์แล้วก็ไม่น่าจะเล็กรึเปล่าวะ มีอะไรก็พูดกันตรงๆสิ” กายเล็กเดินเข้ามาหา
ก่อนจะดึงมือหนามาจับเอาไว้แล้วช้อนสายตาขึ้นมอง
“มันโคตรไร้สาระ”
“ถ้าเป็นเรื่องของมึง มันก็ไม่ไร้สาระสำหรับกู”
“งั้นถามแค่คำเดียว” เขาพยายามใจเย็น
ไม่อยากจะพูดเรื่องที่คิดเท่าไหร่นักเพราะไม่รู้ว่ามันจะมีผลกระทบอะไรกับสภาพจิตใจของเจ้าขุนหรือไม่
“มึงรักกูมั้ย?”
“รัก” เจ้าขุนตอบอย่างไม่ลังเล
“แค่นั้นก็พอแล้ว กูเชื่อคำว่ารักของมึง
เพราะงั้นเรื่องเมื่อกี๊มันก็แค่เรื่องไร้สาระ”
“มึงคิดมากเรื่องลมเหรอ?”
“...”
คนฟังถึงกับกลืนน้ำลาย เจ้าขุนถามเขาแบบตรงจุด
ทำเอาคนที่เคยปรับสีหน้าเก่งถึงขั้นเครื่องรวนไปพักใหญ่ๆ ร่างสูงหัวเราะแห้งๆพอเป็นแบบนั้น
แล้วมันก็ทำให้คนมองถอนหายใจส่ายหน้าในทันที
“เรื่องนี้ใช่รึเปล่า?”
เจ้าขุนถามซ้ำ สายตาที่คาดคั้นเอาคำตอบทำให้เอิร์ทต้องยอมจำนน
เขาพยักหน้าลงช้าๆอย่างคนที่ไปไหนไม่รอด
แต่สิ่งที่น่าแปลกก็คือมือที่จับกันอยู่กลับมีแรงบีบเข้าหามากขึ้น
“แต่ตอนนี้ไม่ได้คิดอะไรแล้ว เมื่อกี๊อาจจะเป็นเพราะกูบ้าเอง”
เอิร์ทยังคงแก้ตัวต่อ
“กูทำอะไรให้ไม่พอใจเหรอ? ทำไมถึงคิดแบบนั้น?”
“ไม่ ไม่เลย” เอิร์ทส่ายหน้า “มึงไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น
บอกแล้วไงว่าเป็นกูที่บ้าเอง”
“กูไม่ได้คิดอะไรแล้วนะ”
“กูเชื่อ”
“ไม่เอาดิ เราเป็นแฟนกันรึเปล่าวะ” เจ้าขุนย่นคิ้วอีกครั้ง
“อยากถามอะไรก็ถาม อย่าคิดไปคนเดียวจะได้มั้ย
มึงสามารถคุยกับกูได้ทุกเรื่องแบบไม่ต้องเกรงใจเลยนะเอิร์ท”
“...”
“อยากถามอะไรก็ถามมา หรือมึงสงสัยว่ากูยังไม่ลืมลม?”
“...” เขาเม้มริมฝีปาก ใจจริงก็อยากรู้
แต่ที่ไม่ยอมปริปากพูดออกไปสักทีก็เพราะว่าไม่อยากจะรื้อฟื้นเรื่องเก่าๆ
อีกทั้งเขายังบอกตัวเองอยู่ตลอดว่าให้เชื่อใจเจ้าขุน
ไม่รู้สิ.. มันพูดยากเหมือนกัน
อธิบายไม่ได้ว่าตัวเองเป็นบ้าอะไรกันแน่ หรือนี่จะเป็นอาการที่เขานิยามกันว่า ‘อยากรู้แต่ไม่อยากถาม’
เอิร์ทพบว่ามันคืออาการที่งี่เง่าสิ้นดี
แถมยังทำให้ประสาทจะเสียอีกด้วย เรียกว่าอึดอัดใช้ได้
จนตัวเขาเองก็ทำได้เพียงแค่ถอนหายใจออกมาแรงๆอย่างในตอนนี้
ถ้าใครเคยเป็นเหมือนกันก็น่าจะเข้าใจเขาล่ะมั้ง
“ต้นเหตุที่ทำให้มึงคิดมากมันคืออะไร?”
“...”
“พูดเถอะเอิร์ท กูจะได้เข้าใจไง กูจะได้ไม่ทำอีก” เจ้าขุนเขย่าแขน
“คือมันไร้สาระไงกูบอกแล้ว”
“กูก็บอกมึงแล้วมั้ยว่ามันไม่ไร้สาระหรอก ถ้าเป็นเรื่องของมึงอะ”
“กูงี่เง่ามาก” เอิร์ทหัวเราะ
แม้ว่าเจ้าขุนจะเริ่มหน้าบึ้งแต่เขาก็ยังคงยิ้ม ตามประสาคนอารมณ์ดี
แล้วก็ไม่อยากให้เราทั้งคู่ทะเลาะกันด้วยเรื่องแบบนี้
“ทำไมถึงต้องว่าตัวเอง?”
“กูแค่เห็นมึงเอาแต่หมกตัวอยู่ในครัว ไม่ยอมออกมาเจอหน้าเพื่อนฝูง
กูก็เลยคิดว่ามึงยังลืมลมไม่ได้ เลยไม่กล้ามาเจอหน้า”
เขาหัวเราะแห้งๆเพื่อเป็นการปิดท้ายประโยค ก่อนจะเปลี่ยนเป็นกุมมือเจ้าขุนให้แน่นขึ้น
ราวกับจะส่งผ่านคำขอโทษไปยังฝ่ามือนั้น “ขอโทษที่คิดมากครับ”
“...”
“ก็บอกแล้วว่าเหตุผลมันไร้สาระ กูกลับมาย้อนคิดกูก็ยังตลกเลย
มึงไม่นอยด์ได้มั้ย ตอนนี้ก็เชื่อใจหมดทุกอย่างนั่นแหละ” เอิร์ทพูดต่อ
“กูอะ...”
“...”
“ไม่กล้าเจอหน้ามันจริงๆนั่นแหละ” เจ้าขุนพูดเสียงแผ่ว
เป็นจังหวะเดียวกับที่เอิร์ทกลืนน้ำลายลงคอเบาๆ
ก่อนจะลูบหลังมือนั้นไปด้วยราวกับจะปลอบประโลม
“เข้าใจ”
“แต่ไม่ได้หมายความว่ากูไม่รักมึงนะเอิร์ท กูรักมึง
นั่นคือความจริง” คำว่ารักที่ถูกเน้นย้ำพร้อมกับสายตาที่มองมาอย่างจริงจังก็ทำให้คนฟังยิ้มออกมาด้วยเช่นกัน
“กูรู้ แล้วกูก็เชื่อ”
“แต่อาจจะเป็นเพราะกูกับลมจบกันไม่ดีเท่าไหร่
แถมพอเห็นมันรักกับโซ่ยาวนานขนาดนี้ กูก็เลยทำตัวไม่ถูก
มันเป็นความรู้สึกผิดที่อยู่ในใจ ที่คิดว่าเมื่อก่อนตัวเองเคยอยากแย่งลมมา..”
“ถ้าไม่อยากรื้อฟื้นไม่ต้องพูดก็ได้”
“ไม่สิ แค่จะเล่าให้ฟัง” เจ้าขุนถอนหายใจอีกครั้ง
“เวลากูเห็นมันสองคนอะ กูก็แค่คิดว่า..เอ้อ ดีแล้วที่ลมไม่เลือกกู
เพราะกูไม่รู้ว่าตัวเองจะดูแลมันได้ดีเหมือนที่โซ่ทำมั้ย
ทุกวันนี้ก็ขอบคุณที่เรื่องราวทั้งหมดดำเนินมาตามทางนี้ ทำให้กูได้มีมึง”
“ฮ่าๆ..”
“แค่นั้นแหละ มันเป็นความรู้สึกที่ว่า..
คิดเรื่องเก่าๆแล้วก็ใจหายเฉยๆ กูก็เลยหลบไปทำอาหารในครัว กูไม่รู้จะพูดกับลมยังไง
ไม่รู้จะพูดกับโซ่ด้วยคำพูดแบบไหน แค่จะสบตาพวกมันก็ยังทำได้ยาก”
“พวกมันก็ไม่ได้เกลียดมึงนะ”
“ใช่” เจ้าขุนพยักหน้ารับ “มันก็ใช่
แต่ถ้าจะให้กลับไปสนิทกันเหมือนเดิม บางทีก็ต้องใช้เวลา
ตัวกูเองก็ไม่ได้เกลียดพวกมัน แล้วก็ยินดีด้วยจริงๆที่ยังคบกันมาจนถึงตอนนี้
ส่วนตัวกู ตอนนี้ก็รู้แล้วว่าใครดีที่สุดสำหรับกู คนคนนั้นก็คือมึงนะเอิร์ท”
สองมือประคองอยู่ตรงข้างแก้ม พร้อมกับสายตาที่จ้องลึกเข้าไปด้านใน
พอเป็นแบบนี้คนฟังเองก็ใจชื้นขึ้นเยอะ
เอิร์ทสัมผัสได้ว่าสิ่งที่เจ้าขุนพูดกับเขานั้นไม่ใช่การโกหก
หากแต่มันก็ออกมาจากใจ แล้วก็เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นจริงๆ
แล้วแบบนี้จะไม่ให้เขารักเจ้าขุนได้ยังไง
ความรักที่มีมันเพิ่มมากขึ้นจนแทบจะล้น
ร่างสูงทาบมือลงบนฝ่ามือนิ่มก่อนจะลูบเบาๆเพื่อปลอบประโลม
พวกเขามองหน้ากันอยู่นานพอสมควร ภายในห้องเต็มไปด้วยความเงียบ
หากแต่ในหูกลับเต็มไปด้วยเสียงหัวใจที่ดังก้อง
“ขอโทษนะ” เอิร์ทเป็นฝ่ายเกริ่น
“ขอโทษเรื่อง?”
“เรื่องที่คิดไปเอ-”
แต่คำพูดนั้นกลับถูกดันกลับลงไปในลำคอเมื่อเจ้าขุนโน้มเข้ามาหา
ริมฝีปากบางแนบเข้ากับเขาเพื่อยุติการพูดคุยกันด้วยวาจา
มือทั้งสองข้างที่ประคองอยู่ตรงหน้ารั้งเอาไว้เพื่อให้เอิร์ทคงอยู่ท่าเดิม
ก่อนที่ตัวเองจะเป็นฝ่ายเอียงไปอีกทางและดูดซับริมฝีปากแกร่งนั้นอย่างแผ่วเบา
“อืม..” แน่นอนว่าเอิร์ทไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องปฏิเสธ
เขาจูบตอบอย่างไม่รังเกียจ
ก่อนจะเลื่อนมือลงไปวางไว้ที่ข้างเอวนิ่มแล้วรั้งให้เจ้าขุนเขยิบเข้ามาใกล้
จูบดูดดื่มเติมเต็มอารมณ์นอยด์ได้เป็นอย่างดี
พอเป็นแบบนี้เขาก็ยิ่งรู้สึกผิดที่เมื่อครู่คิดไกลเกินกว่าเหตุ
แต่ถึงอย่างนั้นเอิร์ทก็นึกปลอบใจตัวเองไปว่า..
อย่างน้อยมันก็ทำให้เขากับเจ้าขุนเข้าใจกันไปอีกขั้น
“อึก..อื้อ” ลิ้นร้อนตวัดเกี่ยวเข้าหากัน
พร้อมทั้งลมหายใจที่รดผ่อนอยู่ตรงปลายจมูก
จู่ๆมือที่ประคองอยู่ตรงแก้มก็เย็นเฉียบทั้งๆที่เมื่อครู่มันยังอุ่น
หากแต่การดูดกลึงที่ตรงริมฝีปากก็ไม่ยักที่จะจบลง
แถมไม่พอยังมีแรงดันเบาๆที่ตรงหน้าอกอีกต่างหาก
เอิร์ทย่นคิ้วเข้าหากันเล็กน้อยในตอนที่เขาจะปริปากพูดแต่เจ้าขุนไม่อนุญาต
ร่างเล็กทาบริมฝีปากเข้าหาพร้อมทั้งประโคมจูบที่หนักหน่วงให้เขามากกว่าเดิม
จนสุดท้ายสะโพกหนาก็ต้องลงไปนั่งอยู่บนโซฟาด้านหลังด้วยความจำใจ
กายบางขยับขึ้นคร่อม
ก่อนจะรั้งใบหน้าของเอิร์ทขึ้นแล้วดูดเม้มริมฝีปากจนเกิดเสียงดัง
มือที่ประคองอยู่ตรงข้างแก้มเลื่อนไปสอดนิ้วทั้งห้าเข้ากับเส้นผมตรงระหว่างท้ายทอย
ก่อนจะบดเบียดสะโพกลงไปคลึงอยู่ที่ตรงบริเวณกลางลำตัว
“เดี๋ยว..-อืม..”
เจ้าขุนไม่เคยทำอะไรแบบนี้กับเขาหรอก
เอิร์ทเอ่ยค้านแบบงงๆ แต่ถึงกระนั้นก็ไม่มีโอกาสได้ปริปากพูด
เจ้าขุนยังคงประโคมจูบให้แก่เขา ลิ้นเรียวสอดเข้ามาภายในแล้วกวาดต้อนอย่างเอาแต่ใจ
แน่นอนว่าเอิร์ทเองก็ตอบรับมันเช่นกัน แต่เมื่อมือที่แสนจะซุกซนนั้นวาดไปตามอก
พร้อมทั้งพยายามปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเขาออก
มันก็ทำให้หัวสมองฉุกคิดขึ้นมาได้อีกครั้ง
“เดี๋ยว..”
ทั้งคู่ต่างหอบ แต่เมื่อมีเสียงค้านดังขึ้นเจ้าขุนก็หยุดการกระทำ
ร่างเล็กหน้าแดงซ่าน ภายในตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ เป็นสายตาที่เอิร์ทเองก็ไม่เคยเห็น
แต่ก็ยอมรับว่าทำให้เขาใจเต้นไม่เบา
“คือมึง..”
“เราจะไม่..ทำกันเหรอวะ?”
บ้าจริงๆ
คบกันมาตั้งนาน โมเมนต์เขินๆไม่ค่อยจะมีนักหรอก
แต่ดันมาตกม้าตายก็เพราะว่าเจ้าขุนถามไปแก้มแดงไปนี่แหละ แถมยัง..
ต้องยอมรับว่าจูบเมื่อสักครู่ร้อนแรงใช้ได้
มันทำให้เขารู้ว่าแท้จริงแล้วเจ้าขุนก็ไม่ใช่คนใสๆอะไร
น้ำหนักการบดสะโพกเมื่อครู่ถึงได้ทำให้เขาปวดหน่วงๆอยู่ตรงกลางลำตัวเช่นกัน
“คือ..”
“หรือมึงทำไม่เป็น?”
“ก็แย่ละ” เอิร์ทหัวเราะออกมาเบาๆ โดยที่เจ้าตัวไม่รู้เลยสักนิดว่าเขี้ยวเสน่ห์นั้นทำให้คนมองจมดิ่งได้ทุกครั้งที่เห็นมัน
“ก็ที่ผ่านมามึงไม่เคยลวนลามกูซักที” เจ้าขุนพูดเสียงเบา
“กูให้เกียรติเถอะ”
“ให้เกียรติเป็นปีเลยเหรอ มึงบ้ารึเปล่า”
ที่ตรงหัวไหล่ของเขาถูกตีแรงๆสองที เป็นการตีที่ไม่ได้ทำให้เอิร์ทรู้สึกเจ็บ
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็จับมือของอีกฝ่ายมาจูบที่ตรงปลายนิ้วทั้งห้า
“ไม่รู้ มันอาจจะเป็นเพราะว่าเราเป็นเพื่อนกันมาก่อน
กูก็เลยลังเลว่าจะก้าวผ่านเส้นนั้นไปดีรึเปล่า”
“มึงมีสิทธิ์ในตัวกูทุกอย่างตั้งแต่วันที่เป็นแฟนกันแล้ว ไอ้โง่”
“ฮ่าๆ ก็กูไม่กล้าหนิ ยิ่งเป็นมึงกูก็ยิ่งคิดเยอะ เกรงใจไปหมด..
อาจเพราะว่ากลัวจะเสียมึงไป”
ประโยคหลังเขาพูดเบากว่าที่คิดเอาไว้ แต่มันกลับทำให้ข้างในใจของคนฟังชุ่มฉ่ำราวกับมีน้ำไหลมาหล่อเลี้ยง
เจ้าขุนแนบจูบเข้าหาร่างสูงอีกหน คราวนี้ไม่ได้ดุดันเหมือนในตอนแรก
แต่กลับเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและแผ่วเบา ทำเอาทั้งคู่รู้สึกหัวสมองโล่งไปพร้อมๆกัน
พวกเขาถ่ายทอดความรู้สึกทั้งหมดผ่านทางรสจูบ
มือหนาเคลื่อนลงคลึงที่ตรงสะโพกนิ่มก่อนจะดูดเม้มเข้าที่กลีบปากล่างของเจ้าขุนซ้ำๆด้วยความรักใคร่
มีเพียงเสียงหอบหายใจที่ดังก้องไปทั่วห้องกว้าง
ริมฝีปากดูดกลึงกันแทบจะไม่หยุดหย่อนเนื่องจากแรงอารมณ์ที่พวยพุ่ง
มือของทั้งคู่เปลี่ยนกันปลดเปลื้องเม็ดกระดุมออกจากกันอย่างรีบร้อน
ราวกับว่ามันเป็นช่วงเวลาที่พวกเขารอคอยโดยไม่พูดอะไร
แล้วในที่สุดมันก็เกิดขึ้นสักที ถือว่าเป็นของขวัญวันเกิดที่ดีที่สุดสำหรับเอิร์ทเลยก็ว่าได้
“เจลอยู่บนเตียง”
“มึงเก็บไว้เหรอ?”
“ก็มีเผื่อไว้ แต่มึงไม่เคยเริ่มสักทีเลยไม่ได้ใช้..อ๊ะ!”
เอิร์ทอมยิ้มให้กับคำพูดนั้น ก่อนที่ร่างของเจ้าขุนจะลอยหวือขึ้นจากพื้น
แขนทั้งสองข้างกอดคอของคนเป็นแฟนเอาไว้แน่น
จวบจนกระทั่งแผ่นหลังถูกทิ้งแนบลงไปที่ความนุ่มนิ่มของผ้าปูที่นอน
พวกเขาย้ายที่แล้ว และริมฝีปากก็แนบเข้าหากันอีกครั้งอย่างไม่รู้จักพอ
นิ้วเรียวลากไปตามแผ่นหลังเนียนละเอียด
เจ้าขุนแอ่นตัวขึ้นเพื่อให้กางเกงถูกเปลื้องออกไปได้โดยง่าย
ก่อนที่ลำคอจะเชิดสูงเปิดโอกาสให้เอิร์ทได้ซุกไซ้ด้วยความเต็มใจ
“ล็อกประตูแล้ว?”
“ล็อกแล้ว แต่พวกไอ้เดย์ก็คงไม่ตามเข้ามาหรอก”
“แน่ใจเหรอ?”
“เพราะกูบอกว่ากูจะมาให้ของขวัญวันเกิดกับมึงไง
คนเป็นเพื่อนกันก็ต้องเข้าใจกันล่ะมั้งว่าของขวัญเป็นยังไง”
เขาก็เพิ่งรู้ว่าเจ้าขุนนั้นขี้ยั่ว
ร่างเล็กเป็นฝ่ายพลิกเอิร์ทให้นอนหงายก่อนจะคร่อมอยู่บนหน้าตัก ริมฝีปากบางจูบไปตามแผงอกแกร่งไล่ลงไปจนถึงหน้าท้องที่เต็มไปด้วยกล้ามมัด
ให้ตายเถอะ คบกันมาตั้งนาน
เขาก็พอจะรู้ว่าเอิร์ทเป็นพวกรักสุขภาพแล้วก็เข้ายิมเป็นประจำ แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีกล้ามหน้าท้องที่ทำให้ใจเต้นได้มากขนาดนี้
ที่ผ่านมาก็ทำอาหารเลี้ยงให้อย่างดี แล้วเอิร์ทก็กินจนหมดทุกวันด้วย
แต่ทำไมถึงไม่เห็นจะอ้วนขึ้นบ้างเลยนะ ผิดกับเขาที่กินแค่นิดๆหน่อยๆแต่กลับไม่มีกล้ามหน้าท้องแบบที่ผู้ชายคนอื่นๆควรจะมีแบบนี้บ้างเลย
“จะทำเองรึไง?”
“อะไรเล่า ไม่ต้องแซวได้ปะ” เจ้าขุนพูดเสียงแผ่ว
ก่อนจะเป็นฝ่ายร่นขอบกางเกงชั้นในของเอิร์ทลง
ยอมรับว่านี่เป็นเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้น
จนเขาแอบด่าตัวเองในใจว่าจะสั่นอะไรนักหนา
ไม่ได้มีอะไรกับเอิร์ทเป็นคนแรกเสียหน่อย แถมไอ้เจ้าสิ่งที่อยู่ภายใต้กางเกงชั้นในก็เหมือนกับที่เขามีนั่นแหละ
แต่หัวใจกลับเต้นส่ำไม่เป็นจังหวะ
“เอิร์ท..”
ยิ่งในตอนที่ไม่มีอะไรปกปิดร่างกาย
สิ่งแรกที่เขาเห็นกลับทำให้ใจเต้นยิ่งกว่าเดิมจนมันแทบจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
“อ่า..”
“มึงสัก?”
“ไม่เคยบอก?”
“ไอ้บ้า มึง!”
หมอนใบใหญ่ถูกโยนใส่หน้า
เขาก็ไม่คิดหรอกว่าเอิร์ทจะสักชื่อของตัวเองเอาไว้ตรงท้องน้อย ไม่สิ..
มันต่ำกว่านั้นลงไปอีกสักหน่อย แต่พูดเลยว่าถ้าทำกิจกรรมร่วมกัน
แล้วถึงขั้นตอนที่เขากำลังใช้ปากให้กับอีกฝ่าย..
ชื่อของเขา.. ก็จะอยู่ตรงกับสายตาแบบพอดิบพอดี
แบบนี้มันบ้าชัดๆ!
แค่คิดใบหน้าของเจ้าขุนก็เห่อร้อน มันต้องมีสักวันแหละที่เหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้น
ฟันคมกัดเข้าที่ริมฝีปากและมองแบบโกรธๆ เรื่องนี้เอิร์ทไม่เคยบอกเขาเลยด้วยซ้ำ
แถมในตอนนี้เจ้าตัวยังหัวเราะชอบใจอีกต่างหาก
มันใช่รึไง!
“ไปสักมาตั้งแต่ตอนไหน??” เจ้าขุนพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ
“ตั้งแต่คบกัน”
“ฮะ??”
“คือตอนแรกมันมีแค่ตัวเจเฉยๆ”
“แล้วทำไมต้องสักชื่อตัวเจ?” คนขี้สงสัยย่นคิ้วเข้าหากันพร้อมทั้งมองด้วยสายตาจับผิด
“กูเป็นพวกชอบสักชื่อคนสำคัญเอาไว้บนร่างกายอยู่แล้ว
อย่างที่มึงเห็นว่ามีชื่อพ่อกับแม่ตรงหลัง แล้วกูก็คิดอะไรไม่รู้ คึกๆ
ตอนนั้นเพิ่งรู้ใจตัวเองว่าแอบชอบมึง กูก็เลยเดินเข้าร้านไปสักตัวเจไว้ก่อน”
เขาขมวดคิ้วมากกว่าเดิมกับความแปลกประหลาดของเอิร์ท
เจ้าขุนถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะยกมือขึ้นลูบหน้า อายก็อาย เขินก็เขิน
ความรู้สึกทุกอย่างปนกันไปหมดจนไม่รู้ว่าควรจะทำหน้ายังไงดี
แถมปากก็อยากจะตะโกนด่าเอิร์ทสักพันรอบให้หูชา
“นี่กูเดิมพันเลยนะ”
“เพื่ออะไรเนี่ย”
“ก็ถ้าจีบติด กูก็ไปเพิ่มตัวอักษรให้มันครบไง แต่ถ้าจีบไม่ติด..
กูก็จะได้รู้แค่คนเดียวว่า J หมายถึงมึง และมึงจะเป็นคนที่กูหวังดีด้วยตลอดไป”
สิ้นสุดประโยคนั้นเขาก็ตีเข้าที่ต้นขาของเอิร์ทอีกครั้ง
ก่อนที่เจ้าตัวจะเป็นฝ่ายหยัดกายขึ้นมาแล้วรั้งให้ไปจูบ บทสนทนาของทั้งคู่จึงหยุดเอาไว้แค่นั้น
ทั้งๆที่มีเรื่องจะคุยอีกตั้งมากมาย แต่ก็ช่างมันเถอะ.. อารมณ์ที่เหลือน่าจะอยู่เหนือกว่าสิ่งใด
ยังไงพวกเขาก็ไม่ได้มีแพลนที่จะเลิกกันอยู่แล้ว
แต่จะว่าไปทุกรอยสักมักจะมีความหมายและมีที่มาที่ไปเสมอ
ใจจริงเจ้าขุนก็รู้สึกดีกับการที่อีกฝ่ายให้ความสำคัญกับตัวเองมากขนาดนี้
แต่มันก็อดเขินไม่ได้ จนเผลอใจกัดเข้าที่ริมฝีปากของเอิร์ทเบาๆด้วยความหมั่นเขี้ยว
“อื้อ!”
หากแต่เจ้าตัวกลับโดนแกล้งตอบ เมื่อฝ่ามือหนาตีลงมาที่แก้มก้นเบาๆเพื่อเอาคืนเช่นกัน
ริมฝีปากของทั้งคู่ยังคงมีแรงดึงดูด เสียงจ๊วบจ๊าบกลับมาดังสะท้อนในหูอีกหน
ส่วนเจ้าขุนเองก็เลื่อนตำแหน่งมือลงไปกอบกุมที่ส่วนกลางลำตัวนั้นเอาไว้แล้วรูดขึ้นรูดลงอย่างแผ่วเบา
“อืม..”
เพิ่งรู้ในวันนี้ว่าเสียงคำรามนั้นแสนจะน่าฟัง
มือเล็กคลึงปลายนิ้วลงไปที่ตรงส่วนหัวอย่างชำนาญ
เขารู้อยู่แล้วว่าต้องปฏิบัติยังไงให้แฟนของเรารู้สึกพอใจ จนเวลาผ่านไปไม่นานน้ำลื่นๆก็ซึมออกมาเคลือบท่อนเนื้อสะท้อนเข้ากับแสงไฟจนวาววับ
เอิร์ทคำรามในลำคออย่างแผ่วเบา
ตัวเขาเองก็ไม่ยอมแพ้เหมือนกันสำหรับเรื่องปรนนิบัติแฟนอันเป็นที่รัก
มือหนากอบกุมเข้าที่ส่วนอ่อนไหวของเจ้าขุน
ก่อนจะสาวเร้าขึ้นลงให้เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ร่างเล็กกระทำ
ไม่ได้มีการสอดใส่แต่อย่างใด
ริมฝีปากของทั้งคู่ยังคงดูดกลึงและถ่ายทอดความรู้สึกที่ท่วมท้นออกไปให้อีกฝ่ายได้รับรู้
แต่การกระทำแค่นี้กลับทำให้เจ้าขุนรู้สึกเสียวกระสันจนเกิดพายุพัดในช่องท้อง
เสียงเล็กครางออกมาเบาๆในระหว่างที่ตวัดปลายลิ้นตอบกลับ
“อึก..อือ” ท่อนเนื้อร้อนวาววับไปด้วยหยาดน้ำที่ปริซึมออกมาไม่ยอมหยุด
จนกระทั่งเกิดเป็นเสียงของน้ำที่กระทบกับการขยับ ดังก้องอยู่ในหัวจนรู้สึกน่าอาย
หากแต่อารมณ์ที่พุ่งกระฉูดกลับทำให้ทั้งคู่ไม่ยอมหยุดมันลง
ส่วนกลางลำตัวของเอิร์ทบวมเป่ง
เขารู้ดีอยู่แก่ใจว่าตอนนี้ต้องการเจ้าขุนมากแค่ไหน ในขณะที่การจูบเองก็รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
พวกเขาทั้งสองคนไม่ต่างกับภูเขาไฟที่ใกล้จะปะทุเข้าไปทุกที
มือเล็กละออกจากท่อนเนื้อร้อนก่อนจะคว้าเอาเจลหล่อลื่นมาบีบชโลม
เจ้าขุนเชิดหน้าขึ้นสูงในขณะที่เอิร์ทซุกไซ้สันจมูกไปตามลำคอ
พวกเขาเร่งรีบเพราะความต้องการ แกนกายใหญ่วาววับยิ่งกว่าเดิม
อีกทั้งส่วนหัวยังเต่งตึงจนเจ้าของรู้สึกปวดตึบ
“ของขวัญวันเกิดต้องคุ้มขนาดนี้ไหมถามจริง”
ก่อนที่เจ้าขุนจะเป็นฝ่ายดันเอิร์ทให้นอนราบลงไปกับเตียงแล้วขึ้นคร่อมตัก
ชายหนุ่มไม่ต่างอะไรจากม้าตัวใหญ่ที่กำลังจะโดนควบคุม
มองจากมุมนี้แล้วเอิร์ทสามารถเห็นรูปร่างของคนที่เขาเรียกว่าแฟนได้อย่างชัดเจน
เจ้าขุนไม่ใช่คนผอม แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้มีรูปร่างที่น่าเกลียด
หน้าท้องนุ่มนิ่มที่ปรากฏตรงหน้าทำให้เขาถึงขั้นกลืนน้ำลาย
บวกกับความขาวที่แสนจะล่อตาล่อใจ ก็ทำให้เจ้าตัวอดที่จะส่งมือไปเค้นตรงเอวคอดนั้นอย่างห้ามไม่ได้
“อ๊ะ..”
“ค่อยๆ”
เจ้าขุนเองก็ไม่คิดว่ามันจะลำบากอะไรอย่างที่เป็นอยู่
แต่ก็อาจเป็นเพราะว่าเขาไม่ได้ร่วมรักกับใครมานานมากๆแล้วด้วยล่ะมั้ง
เดิมทีถ้ามีอารมณ์ก็แค่ช่วยตัวเองให้เสร็จความใคร่แล้วก็จบไป
เรียกได้ว่าช่องทางนี้แทบจะไม่ต่างอะไรจากของสดใหม่
แล้วมันก็ทำให้เอิร์ทใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
“อื้อ เอิร์ท..”
“ไหวมั้ย ถ้าไม่ได้ อ่า.. เดี๋ยวเอิร์ททำเอง”
ไม่รู้ว่าทำไมแค่อีกฝ่ายเรียกแทนตัวเองด้วยชื่อถึงได้เขินขนาดนั้น
เจ้าขุนกัดฟันแน่น โชคดีที่เจลหล่อลื่นมีส่วนช่วยในการสอดใส่ในครั้งนี้มาก
ร่างเล็กเกร็งสะโพกอยู่นาน ก่อนจะค่อยๆเป็นฝ่ายกดตัวเองลงไปตามความยาวของท่อนเนื้อใหญ่
“เดี๋ยว อื้อ.. ทำเอง”
เจ้าขุนคิดว่าให้เขาได้เป็นคนคุมเกมนั่นแหละดีที่สุด
จะได้รู้ว่าทำแบบไหนตัวเองจะไม่เจ็บ เพราะวันพรุ่งนี้เขายังต้องเปิดร้าน
แล้วก็ไม่อยากจะเป็นไข้นอนซมเพียงเพราะให้ของขวัญกับแฟน
แล้วก็ใช่.. มันถือว่าเป็นของขวัญ เพราะฉะนั้นเขาก็อยากให้เอิร์ทรู้สึกภูมิใจ
“อ่า..”
ใช้เวลามากพอสมควรกว่าจะใส่เข้าไปได้สุด
แต่คนอย่างเอิร์ทเองก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร เขาใช้มือรองไว้ตรงท้ายทอย
เฝ้ามองแฟนอันเป็นที่รักจัดการท่วงท่าอยู่บนหน้าตักแบบยิ้มๆ
ก่อนที่เจ้าขุนจะเป็นฝ่ายโน้มตัวลงมายันแขนเอาไว้ที่ตรงหน้าท้อง
พวกเขาเป็นของกันและกันอย่างสมบูรณ์แบบ
การขยับที่เป็นจังหวะเนิบนาบทำเอาคนมองใจสั่นราวกับมีคนรัวกลอง
เอิร์ทผ่อนลมหายใจออกมาด้วยความกระสัน พอผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้
เขาก็แทบจะไม่ต้องคอยช่วยอะไรเจ้าขุนเลยด้วยซ้ำ
“ซี้ด..”
“ชอบ อ๊ะ..มั้ย..”
โอย
นี่มันยิ่งกว่าชอบ
เอิร์ทพยักหน้ารับแบบยิ้มๆ
ก่อนจะสูดปากอีกหนเมื่อพบว่าเจ้าขุนเริ่มจะขยับโยกได้เต็มที่
ความลื่นของเจลและช่องทางที่เปิดรับทำให้พวกเขาเข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย
อดไม่ได้ที่จะส่งมือไปขยำตรงแก้มก้นนั้นแรงๆจนขึ้นรอยมือ
เอิร์ทมองคนบนตักด้วยความหมั่นเขี้ยว ก่อนจะเด้งสะโพกสวนกลับขึ้นไปตามจังหวะเมื่อเขาไม่อาจหยุดความต้องการเอาไว้ได้อีก
“อ๊ะ..อ ..ฮึก เอิร์ท”
เสียงเล็กร้องครางไม่ได้ศัพท์
เอิร์ทก็เพิ่งรู้ว่าเวลาเจ้าขุนเรียกชื่อเขาไปครางไปมันดีต่อใจไม่เบา
ร่างเล็กโน้มเข้ามาใกล้ยิ่งกว่าเดิมเมื่อการซอยสะโพกถี่รัวมากกว่าเก่า
ศอกทั้งสองข้างยันเอาไว้ข้างลำตัว
ในขณะที่ใบหน้าเหยเกไปหมดเพราะความเสียวจนเกินบรรยาย
ความสุขล้นอยู่ในอกจนแทบจะระเบิด
เจ้าขุนเป็นฝ่ายโน้มไปประทับริมฝีปากจูบกับเอิร์ทโดยอัตโนมัติ
ร่างกายของพวกเขาขยับไปตามความต้องการ ภาษากายที่บ่งบอกว่าเขาต้องการกันและกันมากแค่ไหนไม่ต้องกลั่นกรองออกมาจากสมองเลยด้วยซ้ำไป
“ซี้ด.. อ่า สุดยอด”
ถึงแม้ว่าเวลาที่รอคอยจะเนิ่นนาน
แต่พอได้ทำอย่างสมใจหวังมันก็หอมหวานเช่นนี้นี่เอง
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังไปทั่วห้องกว้าง
เอิร์ทยกสะโพกซอยกายขึ้นไปหาคนด้านบนแบบถี่รัวจนหน้าท้องขึ้นกล้าม เขาขยำแก้มก้นเนียนนั้นจนรอยแดงปะปนกันมั่วไปหมด
เหงื่อกาฬที่ไหลออกมาตามร่างกายไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเป็นของกันและกันในครั้งนี้แต่อย่างใด
“รัก อ๊ะ.. รักมากๆนะ ฮึก”
ดวงตาของทั้งคู่จ้องประสาน ในขณะที่เจ้าขุนพยายามเค้นคำพูดออกมาอย่างยากลำบาก
เดิมทีก็เสียงสั่นอยู่แล้ว แต่พอเอิร์ทดันให้เขานอนตะแคงแล้วแยกขาออก
แถมยังไม่ได้ลดความเร็วในการซอยเอวเข้ามาอีก
แบบนั้นมันก็ไม่ต่างอะไรกับการแกล้งกันหรอกให้ตายเถอะ
“รักใคร ซี้ดด..รักใครครับหืม”
“ฮึก โอ๊ย.. สะ..อ๊ะ”
“รักใคร”
เสียงเนื้อกระทบหน้าขาที่ดังถี่กว่าเดิมเป็นหลักฐานชั้นดีว่าเจ้าขุนโดนแกล้งจริงๆ
หัวไหล่แกร่งถูกจิกจนขึ้นรอยแต่ก็ไม่ได้สร้างความเจ็บปวดให้กับเอิร์ทเลยสักนิด
ในทางกลับกันเจ้าขุนดันเป็นฝ่ายที่พูดอะไรไม่ออกเองเสียมากกว่า
แม้กระทั่งเรี่ยวแรงที่จะฟาดแฟนตัวเองมันก็หายไปหมด
ความรู้สึกเดียวในตอนนี้คือเสียวมากจนแทบน้ำตาซึม
ผ้าปูที่นอนนั้นยับยู่ยี่ไปหมดแล้ว
ไม่ต่างอะไรกับพายุลูกใหญ่ในท้องที่เคลื่อนตำแหน่งไปปั่นป่วนแถวตรงกลางลำตัว
ไม่ไหว
เอิร์ทเก่งมากจนเขาคิดคำพูดใดๆไม่ออก มันมีแต่คำว่าเสียว
แล้วมันก็มากพอที่จะทำให้เจ้าขุนเกร็งไปทั้งตัว
ยิ่งในยามที่ฝ่ามือร้อนส่งมารูดเร้าตรงส่วนนั้นของเขา
คำว่ารักมันก็เค้นออกจากลำคอไม่ได้อีกต่อไป
“เอิร์ท มัน..อ๊า เสียว..ฮึก เร็ว”
“บอกก่อนว่ารักใคร”
“เอิร์ท! อ๊ะ.. เร็วๆ
เร็วฮึก..เร็วอีก”
“ไม่พูด อ่า.. ไม่ให้เสร็จนะ”
ไอ้แฟนบ้าเอ๊ย
เจ้าขุนตีเข้าที่ไหล่แกร่งนั้นแรงๆเมี่อเอิร์ทเอาปลายนิ้วกดไว้ตรงส่วนหัว
เวลาใกล้จะสุขสมดั่งใจหมายแล้วมีอะไรมาปิดกลั้น
แถมจังหวะในการรูดเร้ายังช้าลงอย่างเห็นได้ชัด แบบนี้มันน่าหงุดหงิดยิ่งกว่าอะไร
“อย่า..อ๊ะ อย่าแกล้ง”
แถมจังหวะในการขยับก็ไม่ได้ลดลงเลยสักนิด
ฝั่งฝันอยู่ตรงหน้าของเขาแล้วแถวๆ แต่ดูเหมือนว่าเอิร์ทจะไม่ยอมปราณีเลยจริงๆ
“บอกก่อน ซี้ดด เร็ว..”
“โอ๊ย เอิร์ท.. ฮึก รัก..”
“รัก??”
“รัก..อ๊ะ เอิร์ท!! รักเอิร์ทไง”
เจ้าขุนกระแทกเสียง มันดังพร้อมกับการเชิดหน้าขึ้นครางของคนฟัง
เอิร์ทยิ้มกว้างถึงแม้ว่าเขาจะเสียวไม่น้อยไปกว่าคนตรงหน้า
เอวหนาที่กระแทกเข้าออกถี่ยิบทำเอากายบางสั่นระริกไปตามแรง
แล้วมันก็เป็นจังหวะสุดท้ายที่ไม่มีใครพูดอะไรกันอีกเนื่องจากพวกเขารีบวิ่งไปให้ถึงเส้นชัย
ตาจ้องอยู่ที่ตา เนื้อกระแทกเข้ากับเนื้อ ความรัวและเร็วสัมพันธ์กับมือที่ขยับรูด
ทั้งคู่ประสานเป็นหนึ่งเดียว ราวกับว่าลำตัวลอยเคว้งขึ้นไปกลางอากาศ
ก่อนจะถูกปลดปล่อยออกสู่โลกกว้างอย่างพร้อมเพรียงในที่สุด
“อ๊า..”
“เชี่ยโอ๊ย.. เสียวสัส!”
คนที่ได้ไปถึงฝั่งฝันถึงขั้นสบถคำหยาบ เอิร์ทกดตัวเองเข้าไปลึกจนกายบางสะดุ้งโหยง
พร้อมทั้งความอัดอั้นที่แตกทะลักไม่ต่างอะไรจากตัวเจ้าขุนเอง
หยาดน้ำรักเป็นสักขีพยานว่าพวกเขาเป็นของกันและกันโดยสมบูรณ์แบบ
ในที่สุดทั้งเอิร์ทและเจ้าขุนก็เป็นทุกอย่างให้แก่กันแล้ว
เพื่อน
ครอบครัว
พี่ชาย
น้องชาย
หรือแฟน
ริมฝีปากของพวกเขาจรดเข้าหากันอีกครั้ง
เรียวลิ้นร้อนแลกกันพัลวันอย่างไม่มีใครยอมใคร
จนกระทั่งกายบางถูกกดลงให้นอนราบกับเตียง
พร้อมๆกับการเล้าโลมที่ไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย
“ไม่..อื้ม ไม่ลงไปหาเพื่อนๆเหรอวะ”
“ไม่”
“เอิร์ท.. อ๊ะ”
“มันไม่พอ”
“ฮึก”
“ตอนนั้นบอกให้กูโลภ ตอนนี้กูก็จะแสดงให้เห็นว่าจริงๆแล้วกูอะ”
“เอิร์ท..อ๊ะ”
“โลภโคตรๆเลยเจ้าขุน”
Talk
ขอโทษที่ให้ทุกคนรอนานด้วยนะคะ ♥
แฮ่
#ใครเป็นแฟนใคร
ฮือออ ซักทีนะทั้งคู่ 😭
ตอบลบแงงเขิน😳
ตอบลบ🌚👍💗
ตอบลบโอยยย รอนานแต่สมการรอคอยเจงๆ เจ้าขุนเอ๊ยยย อีตัวดีี อีตัวแซ่บบ โอ้โหยย หืดหาดดดจย้าาาาา พี่เอิร์ทแบบ ดุมากกก กรี๊ดดดดก!!!!
ตอบลบตื้นตัน😂👍👍👍
ตอบลบเขินมากกกกกก
ตอบลบเขินมากกกกกก
ตอบลบพี่เอิร์ทแบบสุดยอดดด
ตอบลบแงงงงงงเขินโว้ยยยพี่แนนน้องหยุดยิ้มไม่ได้ อยากได้ของลมโซ่ด้วยหง่ะ😫
ตอบลบ