Special : Sick ( Lom x So ) end
WE
ARE FRIEND
Lom
x So
Special
: Sick
ก่อนอ่านตอนนี้ อ่านใครเป็นแฟนใคร ในแอพจอยลดา จนจบทั้งเรื่องก่อนนะคะ
ทั้งห้องเต็มไปด้วยความเงียบเมื่อวายุภัคเปิดประตูเข้าไป
เขาพบกับใบหน้าอันแสนจะคุ้นเคยของคนกันเองทั้งนั้น แม้จะมีกันไม่ครบเหมือนเดิม แต่ทุกสายตาก็มองมาทางนี้
ร่างสูงกลืนน้ำลายลงคอกลบความประหม่า ในขณะที่เอิร์ทตัดสินใจเป็นฝ่ายทำลายความเงียบ
“นึกว่าจะไม่เห็นหน้ามึงซะละ”
วายุภัคทำเพียงพยักหน้าสั้นๆ เขาไม่รู้จะตอบอะไร
บางทีบรรยากาศมันก็น่าอึดอัดจนเกินไป และเจ้าขุนเองก็มีสีหน้าที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่
มันคงจะเกี่ยวกับการที่เขาตัดสินใจบล็อคอีกฝ่ายนั่นแหละ
วายุภัคถอนหายใจออกมาเบาๆ เพื่อคลายความตึงให้ตัวเองอีกครั้ง มองจากตรงนี้เขาก็นึกเห็นใจเจ้าขุนขึ้นมาบ้าง
แต่ถ้าถามว่าถ้าหากเลือกย้อนเวลากลับไปได้ เขาจะทำแบบเดิมหรือไม่
คำตอบยังคงเป็นทำเหมือนเดิมทุกประการ
เพราะถ้าเขาไม่ยอมตัด เรื่องมันก็คงจะคาราคาซังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
“เรากลับกันดีปะวะ”
เดย์เป็นฝ่ายเกริ่นก่อนจะยกเบียร์ขึ้นจิบ
คำพูดนั้นเรียกให้ทุกคนขยับตัวอย่างผ่อนคลายก่อนที่จะค่อยๆพยักหน้ากันหงึกหงัก
“ไปส่งกูที่ห้องทีดิ ลม คืนนี้มึงนอนกับโซ่นะ”
ประโยคแรกแจงพูดกับเดย์ ส่วนประโยคหลังหันมาพูดกับเขา
“คือมึง..” วายุภัคอึกอัก
“ไม่ต้องหรอก นอนด้วยกันนี่แหละ”
“ไม่ๆ คือกูอยากเก็บของอะ
ว่าจะกลับบ้าน” แจงอธิบายต่อ
“มึงอยู่คนเดียวได้อ่อวะ? ถ้าอยากให้แฟนเขาปรับความเข้าใจกัน มึงไปนอนกับพวกกูก็ได้” เอิร์ทถามด้วยความเป็นห่วง
“ได้ดิ ทำไมจะไม่ได้”
แจงหัวเราะ “ กูไม่ใช่เด็กสักหน่อย ผีก็ไม่กลัว
ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก จริงๆก็อยากจะกลับบ้านนานแล้ว นี่แค่มาเก็บของ แล้วก็เห็นว่าโซ่มันท่าทางไม่ดีเลยมาอยู่ด้วย
แต่ตอนนี้ไอ้ลมมันมาแล้วนี่ไง”
ร่างสูงพยักหน้ารับอีกหนในตอนที่แจงหันมามอง
ทั้งคู่จ้องหน้ากันโดยที่ลมไม่ได้เป็นฝ่ายเอ่ยปาก และเขาก็รู้ดีว่าแจงคงมีอะไรอยากจะพูดต่อจากนี้
“คุยกันดีๆ มีอะไรก็อย่าใช้อารมณ์
โซ่มันไข้ขึ้นนิดหน่อย เพิ่งจะขอเข้าไปนอนเมื่อกี๊เอง”
“อืม”
“พวกเรากลับกันเถอะ ปล่อยให้มันสองคนได้เคลียร์”
ตามด้วยเอิร์ทที่เป็นฝ่ายตัดบท และทุกคนเองก็พร้อมใจที่จะเอ่ยคำลา
ก่อนแยกย้ายเขาได้รับกำลังใจมากมายจากคนเป็นเพื่อน
สองขาก้าวเข้าไปยังห้องนอนหลังจากที่ทุกคนกลับไปหมดแล้ว วายุภัคปิดประตูเสียงเบาเนื่องจากกลัวว่าจะรบกวนคนที่นอนอยู่บนเตียง
หัวใจของเขาสั่นระริกในตอนที่เห็นอีกฝ่ายนอนหันหลัง
ทั้งๆที่ในห้องไม่ได้เปิดแอร์เนื่องจากโซ่ยังคงป่วย แต่ร่างกายของเขากลับชาไปหมดเพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไงดี
ไม่อยากจะปลุก..
กายสูงทิ้งตัวลงนั่งอยู่ข้างเตียง เขาทอดสายตามองร่างเล็กผ่านทางความมืด
มีเพียงแสงไฟจากตรงระเบียงที่ลอดผ่านผ้าม่านเข้ามาเท่านั้น โซ่หลับตาพริ้มและดูเพลียไม่น้อย
เพียงแค่เห็นมันก็อดที่จะส่งมือไปทาบตรงบริเวณหน้าผากของอีกฝ่ายไม่ได้
ตัวยังคงอุ่น..
โชคดีที่มันไม่ได้ร้อนจี๋ ถ้าไม่อย่างนั้นคงจะแย่กว่านี้
“อือ..”
“โซ่..”
แต่เขาคงทาบมือเอาไว้นานไปหน่อย ร่างเล็กถึงได้เป็นฝ่ายลืมตาขึ้นมามองอย่างเช่นในตอนนี้
ทีแรกคนป่วยหรี่ตามองเขาแบบไม่มั่นใจนัก ก่อนจะเบิกตาขึ้นด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่า ‘เขา’ อยู่ตรงนี้จริงๆ
“ล..ลม”
“เป็นไงครับ ปวดหัวมากมั้ย”
“เธอ.. ธ..เธอ”
“อยู่นี่ไง อึ้งอะไรหืม”
คนป่วยเคลื่อนกายมากอดแทบจะทันที ร่างเล็กกระชับแขนแน่นราวกับกลัวว่าเขาจะบินหนีไป
วายุภัคทำเพียงลูบหัวเบาๆเพื่อปลอบเท่านั้น ก่อนจะเป็นฝ่ายจัดท่าให้คนเป็นแฟนนอนหงายลงไปดีๆ
ส่วนตัวเขาก็เขยิบกายเข้าไปนอนกอดอยู่ภายใต้ผ้าห่ม
อ้อมแขนแกร่งทำให้คนที่กำลังป่วยหัวใจเต้นแรง
ร่างเล็กกระชับกอดเอาไว้แน่นก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองแบบไม่อยากจะเชื่อ มือบางลูบไปตามสันกรามคมกริบนั้นก่อนจะเม้มริมฝีปากเนื่องจากพูดไม่ออก
“ขอโทษที่ปล่อยให้ไม่สบายครับ”
“เธอหายโกรธรึยัง”
โซ่เริ่มจะเบะ
“ไม่หายจะกลับมาหรอ?”
“กลับมาแค่เพราะเค้าป่วยรึเปล่า
เดี๋ยวถ้าหายป่วยก็จะไปอีก”
“ไม่ไปแล้ว” ลมกดจูบลงไปตรงหน้าผากเนียน ก่อนจะพลิกตัวนอนตะแคงแล้วดึงให้ร่างเล็กจมลงมากับอก
“จริงหรอ?”
“ครับ”
“…ฮื่อ”
“ไม่ห่างแล้ว กลับมาเป็นเหมือนเดิมนะ?”
“…”
“ขอโทษที่พูดแรง ขอโทษที่ไม่ฟัง”
มือหนาลูบลงบนศีรษะกลมมนก่อนจะก้มลงไปหอมที่ตรงหน้าผากอีกครั้งเมื่อพบว่าคนในอ้อมกอดเริ่มจะสั่น
“สัญญาว่าคราวหน้า ถ้าทะเลาะกันแรงแค่ไหน ก็จะไม่ขอห่าง จะไม่ปล่อยมือ”
“…”
“จะหันหน้าเข้าหากัน จะคุยกันแบบดีๆ
จะไม่ทำให้ร้องไห้แล้วครับ”
“ฮึก..”
“ชู่ว..”
เขากระชับกอดให้แน่นเมื่อโซ่สะอื้นหนัก
ร่างสูงถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วลูบทั้งหัวทั้งหลังเพื่อเป็นการปลอบ ทั้งๆที่เพิ่งจะสัญญาไปแท้ๆ
แต่กลับทำให้ร้องไห้ออกมาอีกจนได้
ทั้งห้องมีเพียงเสียงสะอื้นของโซ่ดังออกมาเป็นพักๆ
กายบางสั่นราวกับลูกนก แล้วมันก็ทำให้คนที่รับรู้ถึงมันปวดหัวใจไม่ต่างกัน วายุภัคกดจูบไปทั่วที่หน้าผาก
ก่อนจะเลื่อนลงมาสู่เปลือกตาทั้งสองข้างเนื่องจากเขาไม่อยากให้มันบวมช้ำมากไปกว่านี้
โซ่หลับตาลงแน่นเมื่อริมฝีปากร้อนประทับลงหนัก
ร่างสูงกดแช่เอาไว้ตรงเปลือกตา ก่อนจะเลื่อนลงมาที่ตรงข้างแก้มและปลายจมูก หัวใจของเขาเต้นแรงเมื่อพบกับสัมผัสอันแสนจะคุ้นเคย
ทั้งคุ้น ทั้งคิดถึง
รู้ตัวอีกทีริมฝีปากนั้นก็ประทับไปทั่วๆใบหน้า
ร่างเล็กกำมือเอาไว้แน่นเมื่อลมทาบจูบลงมาตรงริมฝีปาก แต่แล้วเขาก็ต้องเป็นฝ่ายห้ามใจแล้วเบือนหนีออกอีกทาง
“เค้าป่วย..” โซ่ค้านเสียงเบา
“แล้วไง”
“เดี๋ยวเธอติดไข้”
“แข็งแรงจะตาย”
“มะ..อื้อ”
ลมแนบจูบเข้าหาแบบไม่รอช้า ร่างสูงรั้งท้ายทอยบางเอาไว้ก่อนจะดูดกลีบปากล่างแบบหนักๆด้วยความคิดถึง
เสียงดูดเม้มดังเข้ามาในหูแล้วมันก็ทำให้โซ่ร้อนไปทั้งหน้า ใช่ว่าพวกเขาจูบกันเป็นครั้งแรกเสียหน่อย
แต่มันกลับเขินไม่ต่างจากครั้งก่อนๆเลยด้วยซ้ำไป จนตอนนี้ไม่รู้แล้วว่าที่ร้อนไปทั้งกายเนี่ยเพราะจูบที่หนักหน่วงขึ้นหรือไข้กันแน่
ลิ้นร้อนกวาดเข้าหาอย่างหนัก ลมพายุพัดกระหน่ำอยู่ในช่องท้อง
ร่างสูงถ่ายทอดเอาความคิดถึงผ่านมาทางจูบนี้จนหัวใจที่เคยแห้งไปกลับชุ่มชื้นขึ้นมาอีกครั้ง
เรียวลิ้นของทั้งคู่ตวัดเข้าหาและตอบสนองกันเป็นอย่างดี จนกระทั่งมันรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
จูบที่เต็มไปด้วยความโหยหาเรียกให้ร่างเล็กดึงคนตัวโตขึ้นมาคร่อมทับเอาไว้
มือบางลูบไปตามแผ่นหลังแกร่ง เนื้อกายเบียดเสียดกันภายใต้ผ้าห่มอันร้อนระอุ แล้วนั่นก็ทำให้โซ่แทบจะหายใจไม่ทัน
“จะหยุดไม่ได้แล้วครับ”
เสียงทุ้มกระซิบอยู่ที่ลำคอในขณะซุกไซร้ มือหนาลูบไปตามผิวกายเนียนละเอียด
บีบเค้นลงไปด้วยความย่ามใจ กลิ่นหอมอ่อนๆที่ตรงซอกคอทำเอาเขาแทบคลั่ง แต่ไม่ได้..
“อย่าหยุด.. อึก”
“เธอป่วย”
“ลม.. แฮ่ก” พวกเขาจูบกันอีกหน คราวนี้ร่างเล็กเป็นฝ่ายแนบกลีบปากเข้าหาก่อน
นิ้วทั้งห้าสอดเข้าขยุ้มผมสีเข้มพร้อมกับริมฝีปากที่เบียดเข้าหาอย่างหนัก
โซ่แอ่นกายขึ้นชิดกับคนด้านบน รวมถึงขาทั้งสองข้างที่แยกออกจากกันแล้วเกี่ยวเอาไว้ที่ข้างเอวแกร่ง
มันส่งผลให้ส่วนนั้นของพวกเขาเบียดเสียดกันอย่างห้ามไม่ได้ และถึงแม้ว่าจะมีเสื้อผ้ากั้นอยู่
มันก็ไม่อาจจะปิดกั้นความแข็งขืนที่เกิดขึ้นได้เลยสักนิด
“ไม่ไหวหรอกโซ่ เดี๋ยวหนักกว่าเดิม”
“ขอ”
“ดื้อ”
“คุณหมอฉีดยาผมหน่อยครับ
ผมร้อนไปหมดแล้ว”
เสียงยั่วๆปนหอบนั้นทำให้เขาอยากจะเปิดก้นอีกฝ่ายแล้วตีแรงๆเพื่อลงโทษจริงๆเลย
นายวายุภัคส่ายหน้าอย่างระอา หากแต่สายตาที่มองมาพร้อมกับการกัดริมฝีปากยั่วก็ทำให้เขาหมดความอดทน
ยิ่งช่วงที่ทะเลาะกันไม่มีอารมณ์จะปลดปล่อย พอถึงตอนนี้ถ้าจะปฏิเสธอีกเขาก็คงจะไม่ไหวเช่นกัน
กางเกงนอนถูกร่นลงไปด้านล่างทั้งๆที่ไม่ได้มอง
พร้อมกับเสื้อผ้าที่ถอดถอนออกจากร่างกายไปตามลำดับ พวกเขายังคงเบียดเสียดกันอยู่ใต้ผ้าห่ม
ในขณะที่ริมฝีปากแนบเข้าหากันแบบซ้ำๆ ร่างสูงก็เป็นฝ่ายเอื้อมไปหยิบเจลหล่อลื่นที่ตรงหัวเตียงมาถือเอาไว้
“อื้อ..ฮึก อือ..”
ท่อนเนื้อแข็งขืนแนบเข้าหากันในขณะบดจูบ
วายุภัคเคลื่อนตัวถูกันไปมาเป็นจังหวะเนิบนาบในขณะที่เขาบีบเจลใส่มือ ตัวของโซ่ร้อนไปหมดจนเหงื่อเริ่มจะซึมออกมาตามหน้าผาก
เขามองด้วยความเป็นห่วง แต่ร่างเล็กกลับสวมกอดเอาไว้แน่นและยืนยันว่ายังไงก็ไม่มีทางหยุดบทรักครั้งนี้เด็ดขาด
มือหนาสอดเข้าไปด้านใต้ ชโลมเจลลื่นๆเข้ากับท่อนเนื้อร้อนของตัวเองที่กำลังบวมเป่ง
เขาจับให้ขาเรียวเกาะอยู่ตรงเอวก่อนจะลากส่วนหัวถูไปตามร่องก้นแล้วดันเข้าไปช้าๆเมื่อเจอช่องทางอันแสนจะคุ้นเคย
“อ๊ะ..”
ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น
โซ่ถูกทับเอาไว้ด้วยกายใหญ่ภายใต้ผ้าห่ม
ความรู้สึกเดียวที่สัมผัสได้คือท่อนเอ็นแข็งๆที่กดเข้ามาภายใน ร่างเล็กจิกมือลงบนแผ่นหลังแกร่งเพื่อระบายความอึดอัด
เจลลื่นๆทำให้มันเข้ามาได้ง่าย แต่อาจจะเพราะเขาเป็นไข้ เหงื่อมันถึงได้แตกออกมาเยอะขนาดนี้
“ซี๊ด.. คิดถึงจังครับ”
“ลม.. อ๊ะ— อึก”
กายหนาเคลื่อนอยู่บนตัวในทันทีที่สอดเข้าไปได้จนสุด
ร่างสูงไถกายช้าๆในขณะที่จ้องดูว่าโซ่จะไหวหรือไม่ เขากดริมฝีปากจูบลงไปบริเวณขมับ
ความเสียวทำให้ร่างสูงกัดฟันแน่นๆ อยากจะทำให้แรงกว่านี้แต่ก็ไม่กล้า ภายในใจของเขาตีกับตัวเองพอสมควร
ห่วงโซ่ก็ห่วง
เอาก็อยากเอา
ยิ่งได้ยินเสียงร้องก็ยิ่งสติแตกกระเจิง
“ลม..อ อ๊ะ โอ๊ย..”
“ไหวปะเนี่ย…อะ โซ่”
“ร้อน..ฮึก..”
เขาตัดสินใจดึงผ้าห่มออกไปกองข้างตัว
สองแขนยันเอาไว้กับเตียงในขณะที่สะโพกขยับเข้าออกไม่มีท่าทีว่าจะหยุด มือเล็กคว้าเข้าที่แขนแกร่งแล้วจิกเล็บเข้าไปเต็มแรง
ความเสียวเกิดขึ้นจนภายในช่องท้องบิดเกร็ง เหงื่อกาฬซึมออกมาเรื่อยๆ และแม้ว่าจะหายใจไม่ค่อยทัน
เขาก็ไม่คิดที่จะบอกให้คนด้านบนหยุดกระทำ
“โซ่ ไหวปะครับ ซี๊ด..”
“ไหว.. อื้อ ทำแรงอีก..กะ ก็ได้”
โซ่ยังไงก็คือโซ่
คำพูดนั้นทำเอาวายุภัคหลุดขำออกมาเบาๆ
ร่างสูงโน้มลงไปจูบที่ริมฝีปากอีกครั้ง แขนแกร่งสอดเข้าใต้ข้อพับขาแล้วยกสะโพกบางให้ลอยขึ้นเล็กน้อยเพื่อการซอยที่ถนัดกว่าเดิม
คราวนี้ล่ะเสียงเนื้อกระทบกันดังไปทั่วห้องกว้าง
ผสานกับเสียงครางที่แสนจะหอบของคนไม่รู้จักเจียม โซ่กัดฟันแน่น กายกระตุกทุกครั้งที่แกนร้อนกระทั้นเข้ามาใส่จุด
พอทำจริงๆแล้วมันทั้งเสียวทั้งเหนื่อย จากที่ตอนแรกว่าไหว แต่พอบทรักแรงขึ้นเขากลับควบคุมจังหวะการหายใจของตัวเองไม่ได้
เขาประมาทลมเกินไป
ประมาทมากเลยทีเดียว
“อ๊ะ..แฮ่ก ลม..”
“จะเสร็จยัง?”
ร่างสูงผ่อนแรงเล็กน้อยก่อนจะวางมือลงบนท่อนเนื้อร้อน วายุภัคสาวมันเป็นจังหวะในขณะที่เอวเองก็ซอยเข้าออกให้สัมพันธ์กัน
โซ่บิดกายดิ้นพล่านด้วยความกระสัน ที่ส่วนหัวปล่อยเอาเมือกสีใสออกมาเรื่อยๆตามแรงอารมณ์ที่กำลังจะปะทุออก
ลมเน้นหนักที่ตรงส่วนหัวจนเขาเผลอครางลั่น ร่างเล็กกัดฟันครางสะบัดเนื่องจากมันเสียวจนเกินบรรยาย
“อ๊า..อ—อ๊ะ ลม”
จนในที่สุดมันก็ถูกปล่อยออกมาใส่ท้อง
โซ่ตัวเบาหวิวราวกับลอยอยู่ในอากาศ เขาปล่อยออกมาจนหยดสุดท้ายเมื่อลมคลึงแรงๆที่ตรงส่วนหัว
น้ำหนืดข้นนอนนิ่งอยู่บนหน้าท้องแบน แต่ยัง.. มันยังไม่จบ
เพราะแฟนของเขายังไม่เสร็จ
“อ๊ะ..อ อื้อ”
เสียงครางเล็ดออกมาอีกครั้งเมื่อขาทั้งสองข้างถูกแยกออกจากกัน
สองมือหนายึดมันให้มั่นแล้วซอยเอวเป็นจังหวะถี่รัวแบบไม่ทันให้ตั้งตัว วายุภัคเชิดหน้าขึ้นครางด้วยความสุขสม
ยิ่งโซ่เพิ่งจะเสร็จไปหมาดๆ ความเสียวที่เกิดขึ้นทำให้ช่องทางหวานบีบรัดเขาแน่นและตอดแบบถี่ๆ
มันโคตรจะดีต่อใจ
“อ่า ซี๊ดด..อืม”
กายบางสั่นไปตามแรงเขยื้อนที่แสนจะหนัก
เขารู้ว่าผู้ชายตอนจะถึงฝั่งมันไม่สามารถควบคุมอะไรได้ แม้กระทั่งแรงก็ผ่อนลงไม่ได้เพราะมันใกล้เข้ามาอยู่แล้ว
โซ่จิกผ้าปูที่นอนแน่น หลับตาปี๋หวีดครางด้วยความเสียว เขากลั้นใจให้คนเป็นแฟนได้กระทำต่อไป
ปกติก็ทนได้อยู่แล้ว
แต่ไม่
ครั้งนี้ไม่
“เธอ..ฮึก โอ๊ย.. นานจัง”
“ไม่ไหวแล้วอ่อ..
ซี๊ด..”
“แตก..อ๊ะ แตกที ไม่ไหวแล้ว อื้อ..”
ลมหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะเกลี่ยหลังมือไปตามหน้าผาก
เขาเช็ดเหงื่อออกให้ก่อนจะกลั้นใจดึงออกมารูดที่ตรงด้านนอก ร่างสูงทอดสายตามองกายเล็กในขณะสาวมือ
ฟันคมกัดแน่นก่อนจะเงยหน้าขึ้นด้านบนด้วยความเสียว
“อ่า..อะ..ซี๊ด..”
“เธอใกล้ยัง..งื้อ เธอเค้าทำให้ปะ..”
“มา.. อ..โอย มาแล้ว “
หน้าท้องเกร็งด้วยความเสียว มือหนาเค้นที่ตรงส่วนหัวจนกระทั่งความอัดอั้นพุ่งเข้าใส่ท้องเนียน
มันมากเสียจนเปรอะไปทั่วท้องขาวๆ วายุภัคคำรามด้วยความพอใจ ก่อนจะก้มลงมองแฟนจอมดื้อที่ยังจะยันกายลุกขึ้นมาหาแล้วคว้าเอาท่อนเนื้อของเขาไปเล็มเลียราวกับมันคือขนม
“โซ่มันเสียว..
ซี๊ด.. โซ่”
ผู้ชายหลังจากเสร็จ ถ้าโดนดูดแรงๆก็เข่าอ่อนกันหมด
หน้าท้องแกร่งเกร็งจนขึ้นกล้ามเมื่อโซ่งับเม้มมันราวกับจงใจจะแกล้ง จนในที่สุดเขาก็เป็นฝ่ายหิ้วปีกร่างเล็กขึ้นมาบดจูบหนักๆ
มือหนาขยำก้นเนียนไปทีหนึ่งด้วยความหมั่นเขี้ยว
“ซนอ่อ เดี๋ยวไม่ให้นอน”
“ไม่ไหวแล้ว” ร่างเล็กส่ายหน้าก่อนจะหัวเราะ ฟันคมกัดริมฝีปาก ก่อนจะหลับตาลงเมื่อถูกกดจมูกหอมลงมาที่สองข้างแก้ม
“เธอทำเค้างี้แล้วแจงอะ..
เดี๋ยว” ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าทีแรกเขาไม่ได้อยู่ในห้องของตัวเองแบบตามลำพัง
สองข้างแก้มเห่อร้อนไปหมดเนื่องจากรู้ตัวว่าเมื่อกี๊ร้องดังมากแค่ไหนกัน
“ไม่อยู่น่า”
“อ้าว ไปไหน”
“กลับห้อง เค้าบอกว่าไม่ต้องกลับแล้วนะ
แต่มันยืนยันจะกลับ”
“หรอ” โซ่ถอนหายใจออกมาเบาๆ ความจริงก็โล่งอก แต่อีกใจหนึ่งก็เป็นห่วงเพื่อนสนิท
“ดูทำหน้าเข้า เธอคิดว่าถ้ามีคนอื่นอยู่ด้วยเค้าจะทำอ่อ
ไม่มีทาง” มือหนาดีดเหม่งร่างเล็กทีหนึ่งก่อนจะหัวเราะเบาๆ
“อะไรเล่า..” มือเล็กลูบหน้าผากป้อยๆ
“เสียงเธอตอนโดนทำอะ เค้าฟังคนเดียวพอแล้ว”
“ลม!”
“ก็จริง.. ไปล้างตัวกันครับ แล้วรีบมานอนกัน เดี๋ยวไข้ขึ้นอีกเป็นห่วงตายเลย”
แขนแกร่งประคองร่างเล็กให้ลุกขึ้นยืน ก่อนที่พวกเขาจะกอดกันแล้วเดินไปยังห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกล
“เค้ารักเธอนะ”
เสียงเล็กเอ่ยเบาๆในขณะที่เขายืนนิ่งรอร่างสูงล้างเนื้อล้างตัวให้
“ขอบคุณที่กลับมาหา”
“ขอบคุณที่รักเหมือนเดิมครับ”
ลมโน้มเข้ามาจูบเบาๆ ก่อนจะรวบเอวบางเข้าไปกอดไว้แน่น
“รักมากกว่าเดิมอีก”
“อือ มากกว่าเดิมเหมือนกัน
รักโคตรๆ รักคนเดียวด้วย”
“อยู่กับเค้านานๆนะเธอ”
“ต้องนานอยู่แล้ว เดี๋ยวจะประกาศคบแบบเปิดเผยแล้วนะ” ลมพูดแบบยิ้มๆ แล้วเขี่ยจมูกของอีกฝ่ายแผ่วเบา
ร่างเล็กหัวใจฟูขึ้นมาพอได้ยินแบบนั้น
สองแขนสวมกอดเข้าที่ลำคอแกร่งก่อนจะแนบริมฝีปากจูบแบบซ้ำๆไม่ยอมหยุด ลิ้นของพวกเขาเกี่ยวเข้าหากัน
แลกเปลี่ยนคำว่ารักเรื่อยๆแบบไม่รู้จักพอ
ทั้งๆที่งานของอีกฝ่ายสำคัญมากแท้ๆ
และถ้าเปิดตัวว่านายแบบชื่อดังคบกับผู้ชายด้วยกัน
มันก็คงจะเป็นกระแสสังคมมากพอสมควร แต่ลมก็ยอมที่จะทำมัน..
แค่นี้เขาก็สัมผัสได้กับคำว่าตกหลุมรักคนเดิมซ้ำๆ
เข้าอย่างจัง และไม่ว่าหลุมนี้จะลึกแค่ไหน
โซ่ก็มั่นใจว่ายังไงเขาก็จะไม่มีทางปีนกลับขึ้นมาเด็ดขาด
“มันแข็งอีกรอบแล้วครับ
พอเหอะ”
“ให้ทำอีกรอบเอาปะ?”
โซ่ถามแบบยิ้มๆ ก่อนจะงับริมฝีปากล่างอีกฝ่ายไว้แล้วกัดดึงเบาๆ
“เดี๋ยวก็ไม่ไหวอีกอะ”
“เธอทำนานกว่าเดิม”
“เค้าอึดเป็นปกติ แต่รอบนี้เธออะไม่ไหวจริง”
“หรอ เป็นที่เค้าหรอ?”
ร่างเล็กเอียงคอถาม ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อจู่ๆก็ถูกช้อนร่างขึ้นมาอุ้มหน้าตาเฉย
“ออกจากห้องน้ำได้แล้วครับ
เดี๋ยวไม่สบายเยอะกว่าเดิมหรอก”
“แล้วแบบนี้ผมจะหายมั้ยครับ
คุณหมอปล่อยยาออกมาหกเลอะเทอะข้างนอกเต็มเลย ผมไม่ได้ยาอะ”
ริมฝีปากบางยู่แบบเคืองๆ คำพูดคำจานั้นราวกับเด็กน้อย
แต่มันกลับทำให้ร่างสูงรู้สึกเขินได้ง่ายๆ
“ยาหมอแรงเกินไปครับ คนไข้ทนไม่ไหว
ถ้าฉีดเข้าไปป่วยอีกรอบชัวร์เลย”
พวกเขาหัวเราะกันอยู่บนเตียง
พูดคุยหยอกล้อกันภายใต้อ้อมกอดที่แสนจะอบอุ่น ก่อนที่ผ้าห่มผืนใหญ่จะถูกยกขึ้นมาคลุมกายหลังจากที่ร่างสูงแต่งตัวให้กับคนป่วยเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โซ่ทอดสายตามองใบหน้าคมคายภายใต้ความมืด
เขาเคลื่อนกายไปนอนทับไว้บนลำแขนแกร่ง ซุกใบหน้าเข้ากับอกหนาที่แสนจะคุ้น
กลิ่นกายของร่างสูงกล่อมให้คนเป็นไข้ผล็อยหลับไปได้อย่างง่ายด้าย
แล้วก็โล่งใจไม่น้อยที่ความวุ่นวายได้หายไปจากพวกเขาเสียที
ขอบคุณที่ไม่ปล่อยมือกัน
ต่อให้เจออุปสรรคมากขนาดไหน แต่ถ้าพร้อมให้โอกาสกันอีกครั้ง
คำว่า ‘เรา’ ก็ยังไม่หายไปไหนหรอก
end
tag #ใครเป็นแฟนใคร
talk : สถานีต่อไป สเปเดย์อิม ที่ทะเลน้า
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น